บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงประมาณ *4.5%* ภายในวันเดียวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม กระทบแนวโน้มขาขึ้นที่ต่อเนื่องมากว่าหนึ่งเดือน โดยราคาได้ร่วงจากระดับสูงสุดระหว่างวันลงมาถึง *102,000 ดอลลาร์* (ประมาณ *1,489 ล้านบาท*) ส่งผลให้ตลาดเริ่มกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันขาลงที่อาจตามมา โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่เป็นสัญญาณชัดเจนของภาวะ *‘ไดเวอร์เจนซ์ขาลง’* ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานในระยะสั้น
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า ระดับ *97,000 – 98,500 ดอลลาร์* (ประมาณ *1,416 – 1,436 ล้านบาท*) เป็น ‘แนวรับสำคัญ’ ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หากสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ แนวโน้มขาขึ้นยังคงมีโอกาสกลับมา แต่ถ้าทะลุต่ำกว่าระดับดังกล่าว แรงขายระยะสั้นอาจรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ด้านนักวิเคราะห์ทางเทคนิคบางรายมองว่า โครงสร้างตลาดในขณะนี้แสดงรูปแบบ *“Inverse Head and Shoulders”* หรือ *หัวและไหล่กลับด้าน* ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะยาว โดยหากรูปแบบนี้ถือว่าถูกต้อง บิตคอยน์มีโอกาสร่วงลงถึงระดับ *91,000 ดอลลาร์* (ประมาณ *1,329 ล้านบาท*) ก่อนกลับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง
การปรับฐานในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ก่อนหน้าเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เริ่มแสดงท่าทีสนับสนุนวงการคริปโตอย่างชัดเจน จนหนุนให้ตลาดอยู่ในภาวะกระทิง อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังต่อทรัมป์และนโยบายที่เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัลอาจยังไม่เพียงพอต่อการพาตลาดฝ่าแรงต้านจากสัญญาณทางเทคนิคที่เข้าสู่ภาวะร้อนแรง
*ความคิดเห็น:* ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ติดตามการตอบสนองของแรงซื้อบริเวณแนวรับสำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าแรงฟื้นของตลาดจะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมเตือนว่าในระยะสั้นตลาดคริปโตอาจเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น
ความคิดเห็น 0