กาลาเรนด์แฉแรง! ไฟ เน็ตเวิร์ก(PI) อาจเป็นโครงการ Ponzi หลังโทเคนราคาร่วงเหลือ 0.6 ดอลลาร์

บัญชีผู้ใช้ชื่อกาลาเรนด์บนแพลตฟอร์ม X ได้เผยแพร่รายงานการตรวจสอบเกี่ยวกับ *ความถูกต้องชอบธรรมของโครงการคริปโตอย่าง “ไฟ เน็ตเวิร์ก” (PI)* ซึ่งเคยเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามแม้จะเผชิญข้อสงสัยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ไฟ เน็ตเวิร์กดำเนินการมานานกว่า 5 ปี และเพิ่งเริ่มมีการเทรดโทเคนของตัวเองหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไม่นานมานี้ แม้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่างสูง แต่โครงการก็เต็มไปด้วยประเด็นขัดแย้ง ตั้งแต่การเลื่อนเปิดเมนเน็ตหลายครั้ง ไปจนถึงเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลครั้งใหญ่ในเวียดนามช่วงปี 2021

ในรายงานของ *กาลาเรนด์* ซึ่งเป็นบัญชีที่มีอิทธิพลในวงการ มีการระบุว่าไฟ เน็ตเวิร์กมีลักษณะคล้าย “โครงการหลอกลวงครั้งใหญ่” พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์คำกล่าวอ้างของทีมงานที่ระบุว่าจะสามารถ ‘ขุดเหรียญผ่านมือถือได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม’ ว่าเป็นเพียงคำโฆษณาอันเลื่อนลอย

*เบน โจว* ซีอีโอของไบย์บิต ก็เคยออกมาวิพากษ์โครงการนี้อย่างหนักหลังจากที่ราคาโทเคนร่วงทันทีหลังการเปิดเมนเน็ต เขาอ้างว่า *ทางการจีนได้ประกาศว่าโครงการนี้เป็นการฉ้อโกงในปี 2023* และไบย์บิตไม่มีแผนจะลิสต์โทเคน PI แต่อย่างใด

นอกจากนี้ กาลาเรนด์ยังโต้แย้งตัวเลขผู้ใช้งานที่ไฟ เน็ตเวิร์กระบุว่ามีถึง *60 ล้านราย* ว่าเกินจริง โดยอ้างว่าแท้จริงแล้วมีกระเป๋าที่ใช้งานจริงอยู่น้อยมาก โดยระบบทั้งหมดดำรงอยู่ด้วย “วงจรการแนะนำซ้ำซ้อน” มากกว่าการใช้งานจริง

โทเคนของไฟ เน็ตเวิร์กได้แสดงความผันผวนรุนแรงนับตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยราคาพุ่งขึ้นถึง *3 ดอลลาร์* ในช่วงเริ่มต้น ก่อนจะดิ่งลงเหลือ *0.4 ดอลลาร์* ต้นเดือนเมษายน และแม้จะดีดกลับมาที่ *1.7 ดอลลาร์* ในเวลาต่อมา แต่ก็ร่วงอีกครั้งเหลือ *0.6 ดอลลาร์* หลังมีข่าวประกาศสำคัญ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘ขายตามข่าว’

รายงานยังอ้างคำพูดของ *Dr. Picoin* ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็น “คนวงในที่น่าเชื่อถือ” โดยระบุว่า *ทีมงานของไฟ เน็ตเวิร์กได้แทรกราคาในตลาด* เพื่อสร้างราคาเทียม และจากนั้นเทขายโทเคนให้กับนักลงทุนทั่วไป กาลาเรนด์สรุปว่า กลยุทธ์ของทีมงานคือการใช้คำมั่นสัญญาที่คลุมเครือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ในขณะที่กลุ่มภายในดึงสภาพคล่องออกจากระบบอย่างเงียบ ๆ

*ความคิดเห็น: พฤติกรรมลักษณะนี้สอดคล้องกับรูปแบบของโครงการ Ponzi ที่พึ่งพาการเชิญชวนรายใหม่เข้าร่วมโดยไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แท้จริงมารองรับ ถึงเวลาแล้วที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเข้าร่วมโครงการที่ขาดความโปร่งใสแบบนี้*