หุ้นเมต้าแพลนเน็ตพุ่งเพดาน 2 วันติด เสี่ยงเข้าสู่ชอร์ตสควีซคล้ายเกมสต็อป

‘บริษัทเมต้าแพลนเน็ต’ ซึ่งเป็นบริษัทถือครองบิตคอยน์(BTC)รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย กำลังกลายเป็นจุดสนใจของตลาดหลังราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวพุ่งแตะเพดานต่อเนื่องสองวัน ขณะกองกำลังขายชอร์ตถูกกดดันอย่างหนัก

ข้อมูลที่ ซีอีโอของเมต้าแพลนเน็ต ซิมอน เกอร์โรวิตซ์(Simon Gerovich) เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า ปัจจุบันมีหุ้นของบริษัทมากกว่า 25% ที่ถูกนำไปยืมเพื่อทำ‘ชอร์ตเซลล์’ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายในชุมชนคริปโตคาดการณ์ว่า เมต้าแพลนเน็ตอาจถูกผลักเข้าสู่ปรากฏการณ์ ‘ชอร์ตสควีซ’ คล้ายเหตุการณ์ของหุ้นเกมสต็อป(Gamestop) ในอดีต

เมต้าแพลนเน็ต เริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรม ก่อนจะขยายสู่การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจนกลายเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่มีบิตคอยน์มากที่สุด ส่งผลให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มสนับสนุนบิตคอยน์เต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันก็เผชิญความกังขาจากนักลงทุนสถาบัน

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกว่ามีรายได้รวม 877 ล้านเยน (ราว 6 ล้านดอลลาร์) โดยกว่า 88% มาจากกลยุทธ์ลงทุนในบิตคอยน์ นับตั้งแต่เดือนมกราคม บริษัทเพิ่มจำนวนบิตคอยน์ที่ถือครองขึ้นถึง 4 เท่า โดยล่าสุดใช้เงิน 104 ล้านดอลลาร์ ซื้อเพิ่มอีก 1,004 BTC ทำให้ยอดสะสมกลับขึ้นไปแตะ 7,800 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านดอลลาร์

ในวันเดียวกัน บริษัทไมโครสเตรทิจีของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ก็รายงานว่าทำการซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 7,390 BTC ส่งผลให้ยอดถือครองรวมเพิ่มขึ้นเป็น 576,230 BTC

อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ที่เน้นบิตคอยน์ของเมต้าแพลนเน็ตซึ่งจดทะเบียนในโตเกียว กลับดึงดูดกระแสขายชอร์ตอย่างรุนแรง สัญญาณหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นแตะ 3.14% ในวันที่ 20 พฤษภาคม กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนลดความเสี่ยงโดยการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเมต้าแพลนเน็ต

ถึงแม้ราคาหุ้นลดลง 12.84% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แต่กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพุ่งขึ้นเพดานสองวันติด ปิดที่ราคา 933 เยนในวันที่ 21 พฤษภาคม การเคลื่อนไหวที่รุนแรงนี้ส่งผลให้ตลาดต้องใช้มาตรการกลไกเบรกเกอร์หยุดการซื้อขายชั่วคราว ทำให้กลุ่มชอร์ตไม่สามารถปิดสถานะได้ และเริ่มเข้าสู่ความกดดันอย่างชัดเจน

หนึ่งในสมาชิกชุมชนได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทกำลังใช้กลยุทธ์ขายพุตออปชันของฟิวเจอร์สบิตคอยน์ เพื่อสร้างรายได้และนำมาใช้ในการซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมในราคาที่ต่ำลง

ผู้ใช้รายหนึ่งในแพลตฟอร์ม X แสดงความเห็นว่า "ลองจินตนาการถึงคนที่ถือสถานะชอร์ตในตลาดหุ้นโตเกียว แต่ต้องรับมือกับหุ้นที่ขึ้นเพดานสองวันติดต่อกัน โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย"

ตลาดเริ่มมีมุมมองว่าหากมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาร่วมวง เกมอาจเปลี่ยน และอาจนำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ของฝ่ายชอร์ตคล้ายกับเหตุการณ์เกมสต็อปในอดีต ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเมื่อกลับมาเปิดอีกครั้งจึงเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง