แบล็คร็อกชะลอแผนเปิด ETF ริปเปิล(XRP) รอดูท่าที SEC และความชัดเจนกฎระเบียบ

บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แบล็คร็อก กำลังชะลอการยื่นคำขอจัดตั้งกองทุน ETF ของริปเปิล(XRP) โดยมีเหตุผลสำคัญหลายประการ แม้ว่าแบล็คร็อกจะเปิดตัวกองทุน ETF ของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ได้อย่างสำเร็จแล้วก็ตาม ท่าทีระมัดระวังต่อริปเปิลจึงได้รับความสนใจอย่างมากจากตลาด

หนึ่งในเหตุผลหลักคือความ ‘ไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบ’ แม้ศาลสหรัฐจะตัดสินว่า XRP ที่ซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนไม่จัดเป็นหลักทรัพย์ แต่สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐ (SEC) ยังคงไม่ยอมรับคำตัดสินนี้โดยสมบูรณ์ ทั้งยังมีแนวโน้มชะลอการตัดสินใจเรื่อง ETF ออกไปจนถึงเดือนมิถุนายนหรือเดือนตุลาคม ปี 2025 ซึ่งมุมมองของแบล็คร็อกคือ ควรรอให้หน่วยงานกำกับดูแลแบ่งแยกระหว่าง ‘คริปโตที่เป็นหลักทรัพย์’ และ ‘คริปโตที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์’ อย่างชัดเจนเสียก่อน

อีกปัจจัยหนึ่งคือ ‘ตลาดอนุพันธ์ของ XRP ยังไม่เติบโตพอ’ โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 รีแพลโดย CME เพิ่งเปิดตัวสัญญาซื้อขายล่วงหน้า XRP และมีมูลค่าการซื้อขายในวันแรกเพียง 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับระดับสภาพคล่องของสัญญาฟิวเจอร์สของ BTC และ ETH ที่เติบโตมานานจนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงของนักลงทุนสถาบัน

นอกจากนี้ แบล็คร็อกยังมองว่า ‘ยังมีการขาดสภาพคล่องในระดับมหภาค’ แม้ XRP จะมีตลาดที่ลึกและมีการเทรดต่อเนื่อง แต่การเปิด ETF จำเป็นต้องรองรับกระแสเงินจำนวนหลายพันล้านบาทในระบบได้อย่างราบรื่น

อีกเหตุผลที่ชัดเจนคือในเวลานี้แบล็คร็อกยังต้องการ ‘โฟกัสกับผลิตภัณฑ์ ETF ที่มีอยู่’ ทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียม โดยเน้นการบริหารสินทรัพย์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าได้รับการตอบรับดีจากตลาด แทนที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้กระจัดกระจาย

ท้ายที่สุด ‘จังหวะเวลา’ ถือเป็นปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ ต่อให้โครงการอย่างริปเปิลหรือโซลานา(SOL) กำลังถูกพูดถึงในวงการ ETF แต่แบล็คร็อกมีแนวโน้มว่าจะรอดูท่าทีของ SEC ให้ชัดเจนก่อนแล้วจึงค่อยเข้าร่วมในตลาด

โดยสรุป แบล็คร็อกกำลังเลือกที่จะ ‘วางแผนระยะยาว’ ผ่านการประเมินความต้องการของตลาด ความพร้อมทางสภาพคล่อง รวมถึงความชัดเจนด้านกฎระเบียบ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดตัวกองทุน ETF ของ XRP อย่างเป็นทางการ ความ ‘ระมัดระวัง’ นี้อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังมองหาการเข้าสู่ตลาดในเวลาที่เหมาะสมและมั่นใจที่สุด ความคิดเห็น: การตัดสินใจของแบล็คร็อกถือเป็นบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังติดตามแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว