ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบิตคอยน์(BTC) สามารถพุ่งทะลุแนวต้าน 110,000 ดอลลาร์ และเข้าใกล้ระดับ 111,000 ดอลลาร์แล้วในช่วงล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ราคาบิตคอยน์อาจแตะระดับ 115,000 ถึง 116,000 ดอลลาร์ได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ‘ความผันผวน’ ของตลาดยังถือเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา
ข้อมูลจากหลายแหล่งยืนยันว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและข้อมูลออนเชนต่างแสดงสัญญาณในเชิงบวก ขณะเดียวกันเสียงคัดค้านที่เคยคาดการณ์ว่า ‘ตลาดจะพัง’ ก็เงียบลงอย่างชัดเจน นอกจากบิตคอยน์แล้ว เหรียญทางเลือก (altcoins) ก็ปรับตัวขึ้นตาม เช่น ดอจคอยน์(DOGE) ที่พุ่งขึ้นกว่า 7% ขณะที่เหรียญหลักอื่น ๆ มีการปรับตัวในช่วง 2-4%
ที่น่าจับตามองคือความเคลื่อนไหวของ ‘เหรียญในเครือข่ายพาย’ หรือ ‘พาย คอยน์(Pi)’ ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 10% จนแตะ $0.86 ก่อนจะย่อตัวลงมาทรงตัวที่ประมาณ $0.84 แม้ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ $0.94 ได้ แต่ผู้สนับสนุนพายคอยน์ยังคงคาดหวังว่าราคาจะทะลุ $1 ได้ในอนาคต
ราคาที่ปรับตัวขึ้นของพายคอยน์ แม้มีการปลดล็อกเหรียญออกมาอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยเฉพาะ ‘กองทุนสนับสนุนโครงการพาย’ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ และ ‘แรงยึดจากนักลงทุน’ ที่เลือกถือครองเหรียญแทนที่จะเทขาย
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากพายคอยน์สามารถ ‘จดทะเบียนในกระดานเทรดหลัก’ ได้ ราคาจะปรับสูงขึ้นอีก พร้อมกับระดับการรับรู้ที่มากขึ้นในหมู่นักลงทุน ด้านฝั่งของบิตคอยน์ ข้อมูลจากเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง RSI และ MACD ยังบ่งชี้ถึง ‘แนวโน้มเชิงบวก’ ต่อไป
แม้ตัวบ่งชี้ RSI จะชี้ว่าบิตคอยน์เริ่มเข้าสู่ ‘โซนซื้อมากเกิน’ แล้ว แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่รุนแรง จึงยังพอมีช่องทางให้ราคาปรับขึ้นได้อีก ความเห็นจากนักวิเคราะห์ยังชี้ว่า หากราคาบิตคอยน์เริ่มชะลอตัว เหรียญอย่างอีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) และริปเปิล(XRP) อาจแสดงการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นมากขึ้น
‘แรงซื้อของวาฬ’ ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง ถือเป็น ‘สัญญาณเชิงบวกต่อสุขภาพของตลาด’ ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนักลงทุนระยะยาวในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0