สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เลือกเครือข่ายอวาแลนช์(AVAX) เป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนหลักสำหรับแพลตฟอร์มสะสมของดิจิทัลและประสบการณ์แฟนบอลระดับโลก เพื่อรองรับแฟนบอลกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลก
เมื่อวันที่ 22 (เวลาท้องถิ่น) FIFA เปิดเผยผ่านประกาศอย่างเป็นทางการว่า บล็อกเชนระดับเลเยอร์ 1 (Layer 1) สำหรับโปรเจกต์ขององค์กรจะถูกพัฒนาโดยใช้โครงข่ายอวาแลนช์ ซึ่งมีจุดเด่นด้านการขยายตัวที่ดี และเป็นมิตรกับเครื่องเสมือนอีเธอเรียม (Ethereum Virtual Machine: EVM) ผ่านบริการของอาว่าคลาวด์ (AvaCloud) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินแบบกระจายศูนย์และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) ได้อย่างราบรื่น
การประกาศครั้งนี้ต่อยอดจากนโยบายของ FIFA ที่เผยเมื่อเดือนก่อนเกี่ยวกับการจัดตั้งเครือข่ายสำหรับของสะสมดิจิทัลโดยเฉพาะบนเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อรองรับแผนงานด้านดิจิทัลขององค์กรในระยะยาว
ฟรานเชสโก อบาเต(Francesco Abbate) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมเดกซ์ (Modex) บริษัทที่ร่วมมือกับ FIFA กล่าวว่า “การตัดสินใจเลือกอวาแลนช์ มาจากการพิจารณาด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม ความสามารถในการปรับแต่ง และความยืดหยุ่นในการขยายแพลตฟอร์ม” พร้อมทั้งเน้นว่า FIFA จะสามารถนำเสนอ 'ของสะสมดิจิทัลที่สร้างสรรค์' และ 'ประสบการณ์แฟนบอลที่มีความสมจริง' ได้มากขึ้นด้วยความเร็วและความสามารถในการรองรับจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมาก
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ FIFA จะย้ายแพลตฟอร์ม FIFA คอลเลกต์ (FIFA Collect) ซึ่งเป็นตลาด NFT และแพลตฟอร์มของสะสมขององค์กร ไปสู่บล็อกเชนอวาแลนช์ในชื่อ "FIFA บล็อกเชน" อย่างสมบูรณ์ โดยจะเปิดให้ใช้งานผ่านกระเป๋าเงิน EVM อย่างเมตามาสก์ (MetaMask) และแอพที่รองรับวอลเล็ตคอนเนกต์(WalletConnect) แทนที่กระเป๋าเงินที่ใช้งานก่อนหน้านี้อย่างเพรา (Pera) และเดฟลาย (Defly) ที่จะหยุดให้บริการ
ทั้งนี้ FIFA ยังเปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างการวางแผนธุรกิจเพิ่มเติมที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด อย่างไรก็ตาม องค์กรได้เคยเปิดตัวชุด NFT ครั้งแรกไปแล้วเมื่อปี 2023 ร่วมกับโมเดกซ์ ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย
*ความคิดเห็น: การที่ FIFA หันมาใช้อวาแลนช์ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการกีฬาในการผสานบล็อกเชนเข้ากับประสบการณ์แฟนบอล ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้กับองค์กรกีฬาอื่นๆ ต่อไป*
ความคิดเห็น 0