ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 109,000 ดอลลาร์ หลังทรัมป์ประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป(EU) สูงถึง 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยให้เหตุผลว่าการเจรจาการค้ากับ EU ไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ พร้อมกล่าวหารุนแรงว่า EU ก่อตั้งขึ้นเพื่อ ‘เอาเปรียบสหรัฐฯ’
ทรัมป์ยังระบุว่าสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับ EU สูงถึง 250,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี อันเป็นผลจาก ‘กำแพงภาษีที่ไม่เป็นธรรม’ ซึ่งฝ่ายยุโรปเป็นผู้กำหนดไว้ การประกาศตั้งกำแพงภาษีใหม่นี้ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดคริปโตแทบจะในทันที ส่งผลให้บิตคอยน์ซึ่งเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันก่อนหน้าที่ระดับ 111,000 ดอลลาร์ กลับร่วงลงอย่างรวดเร็ว
บิตคอยน์ปรับตัวลดลงตามแรงกดดันจากข่าวดังกล่าว โดยราคาร่วงลงต่ำกว่าระดับ 109,000 ดอลลาร์ สถานการณ์ในครั้งนี้คล้ายคลึงกับช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อทรัมป์เริ่มสงครามการค้ากับหลายประเทศ ซึ่งในครั้งนั้น บิตคอยน์ร่วงลงไปอยู่ที่ 75,000 ดอลลาร์ ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ก่อนจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาเกินระดับ 110,000 ดอลลาร์อีกครั้ง จากแรงหนุนของเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นและความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่เริ่มผ่อนคลาย
นอกจากบิตคอยน์แล้ว อัลต์คอยน์หลายตัวก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบรรดาเหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ซึ่งเผชิญแรงเทขายหนักหลังงานเลี้ยงพิเศษเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตกลงกว่า 15%
จากข้อมูลของ CoinGlass ระบุว่าภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง มีการล้างพอร์ตของนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงกว่า 450 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มีนักลงทุนมากถึง 150,000 คนที่ได้รับผลขาดทุนโดยตรงในช่วงเวลาดังกล่าว
*ความคิดเห็น*: สัญญาณจากปัจจัยการเมืองโลกอย่างคำประกาศของทรัมป์ ยังคงส่งอิทธิพลต่อความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่า ‘คริปโต’ ไม่ได้อยู่ในสุญญากาศ และยังคงตอบสนองต่อปัจจัยมหภาคไม่ต่างจากสินทรัพย์ดั้งเดิม.
ความคิดเห็น 0