กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ดำเนินการยึดทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8.56 พันล้านบาท จาก รุสตัม กาลยามอฟ(Rustam Rafailevich Gallyamov) ชาวรัสเซียซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาหลักของ ‘แคคบอท(Qakbot)’ มัลแวร์ชื่อฉาวที่มีบทบาทสำคัญในการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก
เมื่อวันที่ 22 (เวลาท้องถิ่น) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยรายละเอียดคำฟ้องของคณะลูกขุนใหญ่กลางต่อกาลยามอฟ วัย 48 ปี ซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ในกรุงมอสโก การดำเนินคดีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อต่อกรกับกลุ่มมัลแวร์แคคบอต ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้ว่ากาลยามอฟมีบทบาทสำคัญในฐานะนักพัฒนา และอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์มานานหลายปี
แคคบอทเริ่มปรากฏในปี 2007 และแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์นับล้านเครื่องทั่วโลก กลายเป็นเครื่องมือหลักในคลังของอาชญากรไซเบอร์ ทั้งในรูปแบบของการฟิชชิงทางอีเมล ไปจนถึงการเจาะระบบสถาบันการเงิน มูลค่าความเสียหายโดยรวมคาดว่าน่าจะอยู่ในระดับหลายหมื่นล้านบาท
แมทธิว กาเลโอตติ(Matthew Galeotti) ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนอาชญากรรม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า “คดีนี้คือคำเตือนอย่างชัดเจนถึงเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ระดับนานาชาติ” พร้อมเน้นว่า “กระทรวงยุติธรรมจะตามรอยการฟอกเงินผ่าน *คริปโต* อย่างไม่ลดละ”
ขณะนี้หน่วยงานสหรัฐฯ ได้เริ่มกระบวนการยึดทรัพย์ในรูปแบบแพ่ง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเชื่อว่ามีที่มาจากผลประโยชน์จากการโจมตีด้วยแคคบอต โดยประกอบด้วยสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)*
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเสี่ยงของ *คริปโต* ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายในการติดตามและรับมือกับภัยคุกคามในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ความคิดเห็น 0