บิตคอยน์(BTC) กำลังแซงหน้าทองคำในแง่อัตราการเติบโตของการลงทุน ตามรายงานล่าสุดที่เปิดเผยว่า บิตคอยน์ ETF แบบสปอตซึ่งเพิ่งเปิดตัว สามารถเติบโตได้เร็วกว่าทองคำ ETF รายหลักอย่าง SPDR โกลด์แชร์(GLD) โดยคาดการณ์ว่าจะมีเงินทุนขนาดใหญ่จากสถาบันทยอยหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตในช่วงหลายปีข้างหน้า
บิตไวส์(Bitwise) บริษัทบริหารดัชนีคริปโต เปิดเผยรายงานฉบับใหม่โดยคาดว่า ภายในช่วงสิ้นปี 2025 จะมีเงินทุนไหลเข้าสู่บิตคอยน์ถึง 120,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 175.2 ล้านล้านวอน) และอาจเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 438 ล้านล้านวอน) ในปี 2026 รายงานยังระบุว่า ขณะนี้ผู้เล่นหลากหลายกลุ่มกำลังเข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มการถือครองบิตคอยน์, กองทุนรัฐบาล และการเข้าซื้อในระดับประเทศ ประกอบกับแรงหนุนจากการลงทุนผ่าน ETF ที่ทำให้เกิดกระแสเงินทุนก้อนใหญ่เข้าสู่ตลาด
แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปี 2024 ETF บิตคอยน์แบบสปอตมีเงินทุนสุทธิเข้าแล้วกว่า 36,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.8 ล้านล้านวอน) ซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินที่ไหลเข้าทองคำ ETF อย่าง GLD ในช่วงเริ่มต้นอย่างมาก ทั้งนี้ บิตคอยน์ ETF สามารถทำยอดสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ทะลุ 125,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 182.5 ล้านล้านวอน) ภายในเวลาเพียง 1 ปี ซึ่งเร็วกว่า GLD ถึง *20 เท่า* บิตไวส์คาดว่า หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ภายในปี 2027 อาจเห็นเงินไหลเข้าสู่บิตคอยน์ ETF แตะระดับ *100,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 146 ล้านล้านวอน)* ต่อปี
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นระยะยาวของสถาบันและรัฐบาลที่มีต่อบิตคอยน์ ปัจจุบันการถือครองของบริษัทจดทะเบียนและรัฐบาลรวมกันอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้าน BTC หรือคิดเป็นส่วนสำคัญของอุปทานทั้งหมดในตลาด ซึ่งตอกย้ำสถานะของบิตคอยน์ในฐานะ *สินทรัพย์สำหรับการเก็บมูลค่าในระยะยาว*
การที่บิตคอยน์เริ่มถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ทดแทนทองคำ ยังอาจได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* “ความคิดเห็น” ทางตลาดประเมินว่า หากมีความชัดเจนด้านการกำกับดูแล พร้อมนโยบายที่เอื้อต่อคริปโตจากประเทศสำคัญ บวกกับการเคลื่อนไหวของสถาบันขนาดใหญ่ แรงซื้อของสินทรัพย์ดิจิทัลอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0