การคาดการณ์เกี่ยวกับราคา *บิตคอยน์(BTC)* ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้าเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น สืบเนื่องจากสถานการณ์ *เงินเฟ้อ* ที่คงอยู่ยาวนาน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของ *หนี้ภาครัฐทั่วโลก* บางรายงานถึงกับระบุว่า บิตคอยน์อาจทะลุระดับ *1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* ภายในปี 2030 หรือเร็วกว่านั้น
‘แคธี วูด(Cathie Wood)’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง ‘อาร์ก อินเวสต์(ARK Invest)’ เป็นหนึ่งในผู้ที่มองโลกในแง่ดี โดยระบุว่า *บิตคอยน์อาจแตะระดับ 1.5 ล้านดอลลาร์* ได้ภายในปี 2030 หากมีการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีราว 58% ตลอดช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า วูดยังเชื่อว่า *การเข้ามาของนักลงทุนสถาบัน* คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของแนวโน้มนี้ โดยกล่าวในวิดีโอบนแพลตฟอร์มยูทูบเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ว่า “เมื่อมีสถาบันเข้าร่วมมากขึ้น เป้าหมายเหล่านั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างชัดเจน”
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเองก็เริ่มเห็นการเข้าสู่ตลาด *คริปโตเคอร์เรนซี* ของเงินลงทุนจากภาคสถาบันเช่นเดียวกันกับแนวโน้มทั่วโลก โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีตอย่าง *แบล็คร็อก และ ฟิเดลิตี* ต่างทยอยเปิดตัว *ETF บิตคอยน์แบบซื้อขายตามราคาจริง* (Spot Bitcoin ETF) ซึ่งส่งผลให้ความต้องการในภาคการเงินของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ *ประธานาธิบดีทรัมป์* จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในทำเนียบขาว ก็อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐ และแน่นอนว่าย่อมจะกระทบต่อตลาดคริปโตโดยรวม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “หากภูมิทัศน์ทางการเมืองของสหรัฐเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหวของเงินลงทุนจากสถาบัน ก็อาจเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านทิศทางและความเร็ว” พร้อมแนะนำให้นักลงทุนมีความ *ยืดหยุ่นในการวางกลยุทธ์* มากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0