บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะยานทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังฟื้นตัวแรงจากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน และสร้างสถิติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยาวนานถึง 7 สัปดาห์ ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากบิตฟินเนกซ์ชี้ว่า การขายทำกำไรจากนักลงทุนอาจส่งผลให้การปรับขึ้นนี้หยุดชะงักลงในไม่ช้า
ตามข้อมูลจากรายงาน Alpha ล่าสุดของบิตฟินเนกซ์ นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง หลังราคาบิตคอยน์พุ่งเกินระดับจิตวิทยาสำคัญ โดยปัจจัยสำคัญที่ซ้ำเติมตลาดคือข้อเสนอของทรัมป์เกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป 50% ซึ่งสร้างความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก
หลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ได้เพียง 36 ชั่วโมง ราคา BTC ก็ร่วงกลับมาต่ำกว่าระดับเดียวกับจุดสูงสุดก่อนหน้า 109,590 ดอลลาร์ การปรับฐานนี้เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและการเทขายในตลาดฟิวเจอร์สที่มีเลเวอเรจสูงถูกบังคับปิดสถานะจำนวนมาก ส่งผลให้แรงขายเร่งตัว
บิตฟินเนกซ์ชี้ว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในขณะนี้มี 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ นักลงทุนที่ซื้อบิตคอยน์ที่ราคาต่ำแล้วขายทำกำไร และนักลงทุนที่ทนขาดทุนในรอบก่อนหน้าแต่ตอนนี้สามารถทำกำไรหรือหลุดพ้นจากจุดคุ้มทุนได้ โดยข้อมูล ‘ออนเชน’ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั้งสองกลุ่มเริ่มทยอยขายออกอย่างชัดเจน
เมื่อราคาบิตคอยน์ทะลุผ่านระดับ 93,400 ดอลลาร์ ซึ่งเป็น ‘จุดคุ้มทุนเฉลี่ยของผู้ถือครองระยะสั้น’ ทำให้แรงขายยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยในช่วง 30 วันที่ผ่านมา นักลงทุนกลุ่มนี้ทำกำไรไปรวมทั้งสิ้น 11.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 15.6 ล้านล้านวอน โดยในหนึ่งวันมีมูลค่าการขายทำกำไรสูงสุดถึง 747 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.02 ล้านล้านวอน)
นักวิเคราะห์จากบิตฟินเนกซ์กล่าวว่า "กรณีนี้สะท้อนว่าเมื่อตลาดกลับมามีแรงผลักดันอีกครั้ง ความเชื่อมั่นและพฤติกรรมของนักลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่ราคาจะเดินหน้าขึ้นอีกระลอก จำเป็นต้องมีการ ‘ย่อยแรงขาย’ และเผชิญการปรับฐานระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของแนวโน้มขาขึ้น"
ความคิดเห็น 0