รัฐบาลออสเตรเลียเพิ่มมาตรการกำกับดูแลหลังพบ *การใช้ตู้ ATM คริปโต* เป็นช่องทางหลอกลวงที่พุ่งสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ส่งผลให้ศูนย์วิเคราะห์และรายงานธุรกรรมทางการเงินของออสเตรเลีย หรือ *AUSTRAC* ประกาศจำกัดวงเงินเข้าออกในแต่ละรายการเหลือไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 325,000 บาท) มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน
มาตรการนี้ยังบังคับให้ผู้ให้บริการ *ATM คริปโต* ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการยืนยันตัวตนลูกค้า และตรวจตราธุรกรรมที่น่าสงสัยอย่างใกล้ชิด พร้อมติดตั้งคำเตือนป้องกันการหลอกลวงบริเวณเครื่อง ATM เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในหมู่ผู้ใช้
การปรับกฎครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงจาก *อาชญากรรมคริปโต* ที่แฝงมากับเครื่อง ATM และยกระดับความปลอดภัยในอุตสาหกรรม โดยแม้มาตรการจะเริ่มต้นบังคับใช้กับผู้ให้บริการตู้ ATM เท่านั้น แต่ *AUSTRAC* ก็ได้แนะนำให้กระดานเทรดคริปโตในออสเตรเลียที่ดำเนินธุรกรรมผ่านเงินสด ดำเนินการตามในระดับเดียวกัน
เบรนแดน โทมัส(Brendan Thomas) ซีอีโอ AUSTRAC กล่าวว่า “ข้อกำหนดเหล่านี้ไม่ใช่ข้อบังคับถาวร เราจะร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจและผู้ให้บริการ ATM เพื่อประเมินความมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และจะปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวมุ่งช่วย *ประชาชนไม่ให้ถูกอาชญากรบีบบังคับให้ใช้ ATM เพื่อโอนเงิน* และปกป้องผู้ให้บริการจากความเสี่ยงในการถูกนำไปใช้เพื่อกิจกรรมผิดกฎหมาย
ปฏิบัติการครั้งนี้มีที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ให้บริการ ATM ทั้ง 9 เจ้าในประเทศ โดยทีมงานเฉพาะกิจของ AUSTRAC พบว่า *72% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดมาจากผู้ใช้อายุมากกว่า 50 ปี* ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้คุมกฎหมาย
AUSTRAC ชี้ว่า “เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ การทำให้ภาคอุตสาหกรรมปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำ เพื่อสกัดการนำ ATM คริปโตไปใช้ในทางที่ผิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น 0