เจมส์ วิน เทรดเดอร์ชื่อดัง ถูกบังคับปิดตำแหน่งบิตคอยน์(BTC) มูลค่าราว 325 พันล้านวอน หลังเดิมพันด้วยเลเวอเรจสูง โดยหวังว่าราคาจะพุ่งขึ้น แต่สุดท้ายต้องขาดทุน แม้จะพยายามลดระดับราคาที่ถูกปิดตำแหน่งด้วยการปิดบางส่วนด้วยตัวเองก็ตาม การขาดทุนครั้งนี้คิดเป็น 240 BTC
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชน Lookonchain รายงานเมื่อวันที่ 4 ว่า วินยังคงถือบิตคอยน์ 770 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 111.9 พันล้านวอน (ประมาณ 80.5 ล้านดอลลาร์) โดยมีราคาที่จะถูกปิดตำแหน่งอยู่ที่ 104,035 ดอลลาร์ต่อ BTC (หรือราว 144.62 ล้านวอน) ขณะเดียวกันข้อมูลจาก Hypurrscan ระบุว่า บิตคอยน์ลอนจ์ที่วินเปิดไว้ด้วยเลเวอเรจ 40 เท่า กำลังขาดทุนแบบยังไม่ปิดสถานะอยู่ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 14 พันล้านวอน)
หลังถูกบังคับขาย วินออกมาโพสต์บน X (เดิมคือ Twitter) ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ *การควบคุมราคา* ในตลาด พร้อมทั้งขอรับการสนับสนุนจากผู้ติดตามเพื่อเปิดโปงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง วินเป็นที่รู้จักจากการเปิดสถานะที่มีความเสี่ยงสูงผ่านแพลตฟอร์ม Hyperliquid โดยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เขาขาดทุนถึง 29 ล้านดอลลาร์จากการเทรด ก่อนจะหันกลับมาเปิดลอนจ์ขนาด 1.25 พันล้านดอลลาร์ ด้วยเลเวอเรจ 40 เท่าในวันถัดมา แต่เพียงวันเดียวเขาก็ปิดสถานะนั้นและพลิกกลับมาเปิดชอร์ตมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์แทน
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การเทรดแบบนี้กลับกลายเป็นหายนะสำหรับวิน โดยข้อมูลจาก Lookonchain และ Arkham Intelligence เผยว่า เขาขาดทุนสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียวในเดือนพฤษภาคม *ความคิดเห็น* หลายฝ่ายเห็นว่า การเดินหน้าลงทุนต่อทันทีด้วยการเปิดสถานะลอนจ์มูลค่า 139 ล้านดอลลาร์ อาจเสี่ยงเกินไป แม้เจ้าตัวจะยังยืนยันเป้าหมายที่ "จะทำกำไรให้ได้ 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม"
อีกด้านหนึ่ง หลังจากมีกรณีการปิดสถานะขนาดใหญ่ของวิน จางเผิง เจา หรือ ซีแซด(CZ) ผู้ร่วมก่อตั้งไบแนนซ์ เสนอแนวคิด *DEX สำหรับตราสารอนุพันธ์แบบดาร์กพูล* เพื่อแก้ปัญหาการควบคุมราคาในตลาด โดยชี้ว่าการแสดงรายการคำสั่งซื้อ-ขายแบบเรียลไทม์ในกระดานตามปกติ ทำให้เกิดปัญหาการเล่นหน้า (front-running) และการลื่นไถลของราคา (slippage) ซึ่งรุนแรงเป็นพิเศษในตราสารอนุพันธ์ที่มีเลเวอเรจ
‘ดาร์กพูล’ เป็นระบบที่เคยใช้ในโลกการเงินดั้งเดิมมาแล้วหลายทศวรรษ โดยเปิดโอกาสให้สถาบันใหญ่สามารถเทรดโดยไม่แสดงข้อมูลคำสั่งซื้อขายบนตลาด ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและความเป็นส่วนตัว แต่ก็มีข้อเสียเรื่องความโปร่งใสซึ่งอาจเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ได้เช่นกัน *ความคิดเห็น* การนำดาร์กพูลมาใช้กับ DEX อาจเป็นทางออกใหม่ที่ช่วยยกระดับตลาดคริปโตให้ใกล้เคียงระบบการเงินแบบดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0