แม้ตลาดคริปโตจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าสัญญาณ *การกลับตัวเชิงบวก* เริ่มชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในหมู่สกุลเงินดิจิทัลทางเลือกอย่าง *อีเธอเรียม(ETH)*, *ฟาร์ตคอยน์(FARTCOIN)* และ *ไฮเปอร์ลิควิด(HYPE)* ที่กำลังได้รับความสนใจจาก ‘วาฬ’ หรือกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บ่งชี้ว่าเดือนมิถุนายนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวขนาดใหญ่ในตลาดคริปโต
แม้ว่า *บิตคอยน์(BTC)* จะเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนจากกองทุน ETF แบบสปอตต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แต่ข้อมูลจาก *ซานติเมนต์*เผยว่า กลุ่มวาฬยังคงถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลรวมกว่า 8,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.15 ล้านล้านวอนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ต่อทิศทางตลาดในระยะกลาง
ในด้านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การที่ราคาบิตคอยน์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปริมาณเงินทั่วโลก (M2) ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่า มูลค่าของบิตคอยน์อาจพุ่งแตะระดับ *150,000 ดอลลาร์* หรือราว 208.5 ล้านบาทไทยได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งแง่มุมนี้มีนัยว่าฤดูกาลของอัลท์คอยน์รอบใหม่น่าจะมีความร้อนแรงยิ่งกว่าในอดีต
สำหรับ *อีเธอเรียม(ETH)* ข้อมูลจาก Lookonchain เปิดเผยว่า มีวาฬรายหนึ่งใช้บริการ OTC จากบริษัท Galaxy Digital เพื่อซื้อ ETH จำนวน *108,278 เหรียญ* คิดเป็นมูลค่าราว *283 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ 3,934 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้นักลงทุนรายเดิมก็ได้ถอน ETH ไปแล้วกว่า *89,000 เหรียญ* คิดเป็นมูลค่า 233 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันที่อยู่กระเป๋า “0x0b26” ถือครอง ETH รวม *139,476 เหรียญ* หรือประมาณ *365 ล้านดอลลาร์* เทียบเป็นเงินไทยประมาณ *5,074 ล้านบาท*
ด้าน *ฟาร์ตคอยน์(FARTCOIN)* มีวาฬอย่างน้อย 3 รายเข้าซื้อรวมกว่า *9.2 ล้านเหรียญ* คิดเป็นมูลค่าประมาณ *9.5 ล้านดอลลาร์* หรือราว *132 ล้านบาทไทย* โดยในช่วงเวลาเดียวกัน FARTCOIN มีการปรับตัวลดลง *5.7%* เหลือราคา *0.891 ดอลลาร์* ต่อเหรียญ
ขณะที่ *ไฮเปอร์ลิควิด(HYPE)* กำลังได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากมีข่าวการเตรียมลิสต์เข้าสู่ตลาด *Binance* ประกอบกับการซื้อจำนวนมากจากวาฬรายหนึ่ง โดยข้อมูลจาก OnchainLens รายงานว่า วาฬดังกล่าวเข้าซื้อ *HYPE กว่า 170,000 เหรียญ* รวมมูลค่ากว่า *6 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *83 ล้านบาทไทย* ภายในเวลาเพียง 3 วัน โดยได้รับแรงหนุนจากความเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ชื่อดังอย่าง *เจมส์ วิน*
*ความคิดเห็น:* การสะสมเหรียญจากกลุ่มวาฬลักษณะนี้มักเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่บ่งบอกถึงความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของตลาด ทั้งนี้ นักลงทุนรายย่อยอาจต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เก็บข้อมูลก่อนตัดสินใจลงสนามในช่วง ‘ฤดูอัลท์’ ที่อาจกำลังมาถึงอย่างเต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น 0