เมตาแพลนเน็ตขยายการถือครองบิตคอยน์(BTC) พร้อมก้าวสู่สถาบันการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
เมตาแพลนเน็ตประกาศว่าขณะนี้บริษัทถือครองบิตคอยน์จำนวน 2,031.41 BTC และตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการถือครองให้ถึง 10,000 BTC ภายในสิ้นปี 2024 โดยมีการซื้อเพิ่มอีก 269.43 BTC ในรอบล่าสุด ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 95,000 ดอลลาร์ต่อ BTC (ประมาณ 13,680 ล้านเยน)
ไซมอน เกอร์โบวิช ซีอีโอของเมตาแพลนเน็ต เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ว่า บริษัทได้ลงทุนในบิตคอยน์เป็นมูลค่ารวม 163.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 23,520 ล้านเยน) โดยมีต้นทุนเฉลี่ยต่อ BTC ที่ 80,394 ดอลลาร์ (ประมาณ 11.6 ล้านเยน) ทั้งนี้ เมตาแพลนเน็ตใช้ 'BTC Yield' เป็นตัวชี้วัดมูลค่าของบริษัท และระบุว่าผลตอบแทนของ BTC ในไตรมาสแรกของปี 2025 อยู่ที่ 15.3%
เมตาแพลนเน็ตได้ดำเนินนโยบายซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงกลางปี 2024 บริษัทถือครองเพียง 141 BTC เท่านั้น แต่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,760 BTC ภายในสิ้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายงานทางการเงินระบุว่า บิตคอยน์ที่ถือครองก่อให้เกิดกำไรที่ยังไม่รับรู้มูลค่า 36 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,180 ล้านเยน)
การขยายการถือครอง BTC ส่งผลให้ราคาหุ้นของเมตาแพลนเน็ตพุ่งสูงขึ้น โดยเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นในปีนี้ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4,000% ในรอบปี นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเข้ารวมอยู่ในดัชนี MSCI Japan ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์ของเมตาแพลนเน็ตมีความคล้ายคลึงกับไมโครสตราเทจี(MicroStrategy) บริษัทที่เริ่มนำบิตคอยน์มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้น
สำหรับการซื้อ BTC ครั้งล่าสุด เมตาแพลนเน็ตได้ระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินหลายประเภท โดยเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ บริษัทออกพันธบัตรทั่วไปครั้งที่ 6 ให้กับ EVO Fund มูลค่า 26.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,790 ล้านเยน) บริษัทมีแผนชำระคืนพันธบัตรนี้ในอนาคตโดยอาศัยรายได้จากการใช้สิทธิซื้อหุ้น ทั้งนี้ พันธบัตรดังกล่าวไม่มีการคิดดอกเบี้ยและเป็นรูปแบบการชำระคืนเมื่อครบกำหนด
ไซมอน เกอร์โบวิช ย้ำว่า บริษัทจะเดินหน้าขยายความร่วมมือทางการเงินเพื่อเพิ่มปริมาณการถือครองบิตคอยน์ให้ถึง 10,000 BTC และผลักดันให้บิตคอยน์เป็นที่ยอมรับในตลาดญี่ปุ่นและตลาดโลก
ความคิดเห็น 0