เจมินี่ (Gemini) หนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดคริปโตชั้นนำที่ก่อตั้งโดยพี่น้อง คาเมรอน และ ไทเลอร์ วิงเคิลวอส ได้เริ่มรุกตลาดยุโรปอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัวบริการ *ฝากเหรียญ* อีเธอเรียม(ETH) และ โซลานา(SOL) รวมถึงผลิตภัณฑ์ *ฟิวเจอร์สแบบถาวรที่มี USDC เป็นหลักประกัน* สำหรับผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับสถานะเป็นหนึ่งใน *แพลตฟอร์มซื้อขายชั้นนำของยุโรป*
การขยายบริการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่เจมินี่ได้รับการอนุมัติจาก *ระเบียบ MiCA ของสหภาพยุโรป* ผ่านสำนักงานในมอลตาเมื่อเดือนสิงหาคม และล่าสุดในเดือนพฤษภาคมก็ได้รับใบอนุญาตตามกรอบ *MiFID II* ทำให้สามารถดำเนินงานด้านการเงินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายทั่วทั้งยุโรป มาร์ค เจนนิงส์ (Mark Jennings) หัวหน้าประจำยุโรปของเจมินี่ ระบุว่า “ในขณะนี้มีแพลตฟอร์มเพียงไม่กี่แห่งที่ให้บริการแบบครบเครื่องทั้ง *ซื้อขายสปอต, สเตกกิ้ง และอนุพันธ์ถาวร* ผ่านอินเทอร์เฟซเดียวกันทั่วทั้งยุโรป เราต้องการเป็นหนึ่งในแนวหน้าให้ได้”
ท่ามกลางตลาด *สปอตเทรดที่ซบเซา* เจมินี่จึงเดินหน้าโฟกัสไปที่ *อุตสาหกรรมอนุพันธ์* เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ของผู้ใช้งาน โดยข้อมูลจากบริษัท TokenInsight ระบุว่า แม้ราคาบิตคอยน์(BTC) จะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ปริมาณการซื้อขายแบบสปอตกลับลดลงถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ที่มีการซื้อขายเพียง 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,004 ล้านล้านบาท) ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สกลับคึกคัก ด้วยปริมาณสูงถึง 20.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,078 ล้านล้านบาท) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ *กองทุน ETF* และผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือกอื่น ๆ
เจนนิงส์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดอนุพันธ์ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเราคาดว่าขนาดตลาดจะพุ่งแตะ 23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,970 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้” โดยเจมินี่ตั้งใจวางตำแหน่ง *ฟิวเจอร์ส* ให้กลายเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์การเติบโตในพื้นที่ยุโรป *ความคิดเห็น: กลยุทธ์บุกตลาดยุโรปด้วยสินค้าทางการเงินที่ตอบโจทย์กระแสการลงทุนปัจจุบันอาจช่วยให้เจมินี่สามารถพลิกฟื้นจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลกได้*
ความคิดเห็น 0