อีเธอเรียม(ETH) กำลังแสดงสัญญาณบวกหลังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 4,250 ดอลลาร์ (ราว 5.9 ล้านบาท) ได้ถึงเจ็ดครั้งภายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาคาดหวังการฟื้นตัวของราคาอีกครั้ง นอกจากนี้ การที่อีเธอเรียมมี *ปริมาณการซื้อขาย* แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) ยังเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังให้ความสนใจสกุลเงินทางเลือกมากขึ้นอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 24 อีเธอเรียมได้ทำสถิติ *ราคาสูงสุดตลอดกาล* ที่ 4,953 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.8 ล้านบาท) ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มขึ้นครั้งนี้เกิดจาก *แรงซื้อทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน* ที่ยังคงแสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินดิจิทัลอันดับสองของโลกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2025 เป็นต้นมา แนวรับที่ 4,250 ดอลลาร์ยังไม่เคยถูกทลายลงมา
ข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม *มูลค่าการซื้อขายของอีเธอเรียมสูงถึง 408,000 ล้านดอลลาร์* (ราว 566 ล้านล้านวอน) แซงหน้าบิตคอยน์ที่อยู่ที่ 400,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 556 ล้านล้านวอน) ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี โดยมีกระแสสนับสนุนจาก ‘*ฤดูกาลของอัล트คอยน์*’ และการลดลงของเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ ETF ของบิตคอยน์ ขณะที่ *ETF ของอีเธอเรียม* กลับมีเม็ดเงินไหลเข้าจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันที่ 11 สิงหาคม ที่มีเงินลงทุนไหลเข้าสูงถึง 1,020 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท) ภายในวันเดียว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน *ความปลอดภัยของอีเธอเรียม* ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา จากรายงานของ Reversing Labs พบว่า *ระบบจัดการแพ็กเกจโอเพนซอร์ส NPM* ที่ใช้พัฒนา สมาร์ตคอนแทรกต์บนอีเธอเรียมถูกฝังมัลแวร์โดยแฮกเกอร์ ซึ่งสามารถนำผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์อันตราย คล้ายกับวิธีการโจมตีที่เคยใช้ในระบบของโซลานา(SOL) ยิ่งราคาคริปโตสูงขึ้น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในช่วงเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว มีมูลค่าความเสียหายจากการแฮกระบบสูงถึง 168 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท)
อีกประเด็นหนึ่งในวงการคริปโตคือกรณีของ *จัสติน ซัน(Justin Sun)* ผู้ก่อตั้งทรอน(TRX) ที่ตกเป็นเป้าข้อกล่าวหาอีกครั้ง หลังจาก World Liberty Financial ประกาศแบล็กลิสต์กระเป๋าเงินของเขาในการแจกจ่ายโทเคน WLFI โดยอ้างเหตุผลว่าเขาอาจนำโทเคนไปเทขาย อย่างไรก็ตาม ซันออกมาตอบโต้อย่างรวดเร็ว โดยยืนยันว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนรายแรกของโครงการและมีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ WLFI ซึ่งปัจจุบันมี *มูลค่าตลาดเมื่อเจือจางเต็มที่ (FDV) สูงเกิน 19,000 ล้านดอลลาร์* (ราว 2.6 หมื่นล้านบาท) และติดอันดับ 30 สกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด
ภาพรวมในขณะนี้ แนวโน้มเงินทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายตัวใน *ระบบนิเวศของอีเธอเรียม* และเพิ่มความผันผวนของราคาในระยะกลางถึงยาว อย่างไรก็ตาม ความท้าทายจากภาวะความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และข้อขัดแย้งภายในโครงการใหม่ จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดต่อไป
ความคิดเห็น 0