บิตคอยน์(BTC) ที่เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 124,000 ดอลลาร์ (ราว 17.2 ล้านบาท) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดกำลังเผชิญกับ *ความผันผวน* อย่างรุนแรง โดยราคาลดลงมาอยู่ที่ 110,958 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.4 ล้านบาท) ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอาจเข้าสู่ ***ช่วงตลาดขาลงตามวัฏจักร 4 ปี*** ที่เกิดขึ้นในอดีต
โจเอา เวดสัน(Joao Wedson) ซีอีโอของแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต *แอลฟราแทล(Alphractal)* ได้ออกมาเตือนว่าตลาดอาจเข้าสู่ภาวะหมีในเดือนหน้า โดยคาดว่าราคาบิตคอยน์อาจลดลงไปถึงระดับ 50,000 ดอลลาร์ (ราว 6.9 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2026 ซึ่งเป็นแนวโน้มตาม *รูปแบบของแฟรกทัล* ที่แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์มักพุ่งแตะจุดสูงสุดภายใน 18 เดือนหลังจากการ ‘ฮาล์ฟวิ่ง’ ตามด้วยการปรับฐานครั้งใหญ่
แม้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคจะชี้แนวโน้มขาลง แต่เวดสันก็ยอมรับว่าสถานการณ์ในตลาดปัจจุบันมีปัจจัยใหม่เพิ่มเข้ามา เช่น *การไหลเข้าของเงินทุนใน ETF*, การเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากสถาบัน และการขยายตัวของสภาพคล่องทั่วโลก อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า “ผู้เข้าร่วมตลาดมักประเมินพลังของวัฏจักรที่เกิดซ้ำต่ำเกินไป” อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่ขัดแย้งเกี่ยวกับทิศทางรอบนี้ว่าอาจแตกต่างจากเดิมก็ได้
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มกลับมองว่าบิตคอยน์ยังคงมี *ศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง* โดยควินเทน ฟรังซัวส์(Quinten Francois) ครีเอเตอร์ด้านคริปโตที่ไม่เห็นด้วยกับการคาดการณ์ของเวดสัน ระบุว่า “แม้ไตรมาส 4 นี้อาจเป็นจุดสูงสุดสำคัญ แต่ภาพรวมวัฏจักรยังไม่จบ สิ่งสำคัญคือ *กระแสสภาพคล่องยังไม่หมดไป*” ซึ่งอาจผลักดันราคาบิตคอยน์ให้สูงขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ มีปัจจัยภายนอกอีกมากที่อาจส่งผลต่อราคาบิตคอยน์ ทั้งการเคลื่อนย้ายทุนระหว่างสหรัฐและเอเชีย ตลอดจน *ความเสี่ยงทางการเมือง* โดยเฉพาะคำเตือนล่าสุดจากอีลอน มัสก์(Elon Musk) เกี่ยวกับ ‘ความวุ่นวายในภาครัฐ’ ของสหรัฐ ซึ่งอาจเป็น *ตัวเร่งความผันผวน* ของตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025
ท้ายที่สุด บิตคอยน์กำลังอยู่บนเส้นทางตัดสินใจสำคัญว่า จะดำเนินตาม *วัฏจักร 4 ปีดั้งเดิม* หรือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากพลังใหม่ในตลาดยุคนี้ สำหรับนักลงทุนแล้ว การรับมือต่อ *ความไม่แน่นอน* ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกตลาดถือเป็นเรื่องจำเป็นในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0