Cointelegraph เผยแพลตฟอร์มคริปโตมีระบบยืนยันตัวตนที่ได้มาตรฐานกว่าเว็บเนื้อหาผู้ใหญ่

ขั้นตอนยืนยันตัวตนของแพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ อาจดูยุ่งยากมากกว่าระบบยืนยันตัวตนลูกค้า (KYC) ของแพลตฟอร์มคริปโต แต่ความซับซ้อนดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าแพลตฟอร์มนั้นจะมีมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่สูงกว่าเสมอไป

เมื่อเร็วๆ นี้ Cointelegraph ได้ทดสอบเปรียบเทียบระบบยืนยันตัวตนของทั้งสองแพลตฟอร์ม โดยพบว่า ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มประเภทใด ก็มักเริ่มต้นด้วยการเข้าสู่ระบบผ่านบัญชีออนไลน์ เช่น บัญชี Google จากนั้นจึงตามด้วยขั้นตอนทั่วไปอย่าง ‘การส่งภาพเซลฟี่’ และ ‘อัปโหลดบัตรประชาชน’ แม้จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามลักษณะของแพลตฟอร์ม แต่โครงสร้างโดยรวมถือว่าค่อนข้างคล้ายคลึงกัน

ทั้งสองอุตสาหกรรมต่างอยู่ภายใต้การจับตามองของหน่วยงานกำกับดูแล โดยในขณะที่แพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ต้องสร้างระบบป้องกันเพื่อคุ้มครองเยาวชน แพลตฟอร์มคริปโตอย่างเช่นเว็บเทรดก็ต้องเข้มงวดด้านการระบุตัวบุคคลเพื่อป้องกันการฟอกเงิน (AML) ดังนั้น ผู้ให้บริการทั้งสองกลุ่มจึงได้พยายามผลักดันระบบที่สามารถ ‘พิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน’

อย่างไรก็ตาม จากผลทดสอบของ Cointelegraph พบว่า มาตรฐานของระบบในแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ยังขาดความเป็นเหตุเป็นผล เช่น การปฏิเสธการยืนยันโดยไม่มีคำอธิบาย หรือเรียกเอกสารโดยไม่มีเกณฑ์ชัดเจน ตรงข้ามกับฝั่งของเว็บเทรดคริปโตที่มีระบบตรวจสอบ ‘ที่เป็นระบบและอิงตามข้อบังคับทางการเงิน’ อย่างชัดเจน จุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ‘ความยากของขั้นตอน’ ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันถึง ‘ความน่าเชื่อถือ’ เสมอไป และอาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้แย่ลง

ในช่วงเวลาที่ประเด็นด้านความปลอดภัยของผู้ใช้และการปฏิบัติตามกฎระเบียบกลายเป็นแรงกดดันที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แพลตฟอร์มต่างๆ จึงจำเป็นต้องขยับจากระดับพื้นฐานของการยืนยันตัวตน ไปสู่ ‘ระบบที่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของกฎเกณฑ์อย่างแท้จริง’ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มคริปโตที่มี ‘ระบบติดตามที่ถูกออกแบบตามกรอบกฎหมาย’ ซึ่งสามารถกลายเป็นรากฐานสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว