แบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอริปเปิล ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีคริปโต หลังยุติคดี SEC สำเร็จ

แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล(Ripple) กลับมาได้รับความสนใจจากวงการคริปโตอีกครั้ง หลังมีรายงานว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาพุ่งทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.9 แสนล้านบาท) ภายหลังจากการบรรลุข้อตกลงยุติคดีความกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการคลี่คลายความเสี่ยงด้านกฎระเบียบบางส่วน และสะท้อนถึงบารมีของผู้บริหารที่มีบทบาทขับเคลื่อนการนำ XRP ไปใช้งานในระดับโลก

มูลค่าทรัพย์สินของการ์ลิงเฮาส์ส่วนใหญ่มาจากการถือครองหุ้นริปเปิล 6.3% และครอบครองเหรียญเอ็กซ์อาร์พี(XRP) เป็นจำนวนมาก โดยริปเปิลเป็นบริษัทฟินเทคที่มุ่งเน้นโซลูชันการโอนเงินระหว่างประเทศที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ การ์ลิงเฮาส์เข้าร่วมบริษัทในปี 2015 และได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอภายในเวลาเพียงหนึ่งปี เขาเร่งขยายธุรกิจด้วยการจับมือกับธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างซันแทนเดร์ (สเปน) และ SBI โฮลดิงส์ (ญี่ปุ่น) พร้อมผลักดัน XRP สู่ตลาดการโอนเงินข้ามพรมแดนทั่วโลก

ชื่อเสียงของเขายิ่งโด่งดังขึ้นหลังจากการเข้าไปมีส่วนร่วมในคดีฟ้องร้องของ SEC เมื่อปี 2020 ที่กล่าวหาว่าริปเปิลระดมทุนโดยการขาย XRP ซึ่งถูกมองว่าเป็น ‘หลักทรัพย์ไม่ได้จดทะเบียน’ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.6 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การ์ลิงเฮาส์ยืนกรานว่า XRP เป็น ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ และเป็น ‘สกุลเงิน’ ที่ใช้งานจริง ซึ่งความเห็นนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่ายในอุตสาหกรรมคริปโต

หลังการต่อสู้ทางกฎหมายยาวนานเกือบ 5 ปี เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ริปเปิลและฝ่ายบริหารได้บรรลุข้อตกลงกับ SEC โดยจะชำระค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.8 พันล้านบาท) ซึ่งถือว่าน้อยกว่าจำนวนที่เรียกร้องในตอนแรกเป็นอย่างมาก วงการคริปโตหลายฝ่ายจึงประเมินว่า นี่คือ ‘ชัยชนะของริปเปิล’ ปัจจุบันบริษัทกำลังร้องขอต่อศาลให้ปลดคำสั่งห้ามการใช้เงินในบัญชีสำรอง (เอสโครว์) โดยรอเพียงคำตัดสินสุดท้าย

หลังการตกลงยุติคดี การ์ลิงเฮาส์เข้าร่วมการประชุมวุฒิสภาสหรัฐและเน้นถึงความเร่งด่วนของการพัฒนากฎระเบียบคริปโต เขาชี้ถึงความไม่แน่นอนด้านกฎหมายที่ส่งผลให้เทคโนโลยีบล็อกเชนและตำแหน่งงานไหลออกนอกประเทศ พร้อมยกตัวอย่างจากสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปว่าได้ออกกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการเติบโต และเรียกร้องให้สหรัฐดำเนินการตามด้วยแนวทางที่สมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนาอุตสาหกรรม

การ์ลิงเฮาส์เกิดเมื่อปี 1971 ที่เมืองโทพีกา รัฐแคนซัส จบการศึกษาระดับ MBA จากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด ก่อนผันตัวเข้าสู่วงการเทคฯ โดยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัท AOL และ ยาฮู โดยเฉพาะเมื่อปี 2006 เขาเคยเผยแพร่เอกสารชื่อ ‘Peanut Butter Manifesto’ วิพากษ์กลยุทธ์ของยาฮู สะท้อนมุมมองที่เฉียบแหลมและเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์

เหตุการณ์ล่าสุดทำให้ชื่อของการ์ลิงเฮาส์กลับมาเป็นบุคคลสำคัญกลางเวทีการถกเถียงเรื่องนโยบายบล็อกเชน แม้ข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของ XRP ยังไม่สิ้นสุด แต่ความพยายามของริปเปิลในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลก และกลยุทธ์การบริหารที่เน้นการกระจายอำนาจ ยังคงได้รับการชื่นชมภายใต้การนำของเขา

ในปัจจุบัน การ์ลิงเฮาส์ยังถือครองบิตคอยน์(BTC) และมีบทบาทร่วมกับผู้นำคนอื่น ๆ ในวงการเพื่อผลักดันการปรับปรุงนโยบายภาครัฐ โดยอนาคตของวิสัยทัศน์ ‘อินเทอร์เน็ตแห่งมูลค่า’ ที่เขาเคยวางไว้นั้น อาจต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภายใต้การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงถัดไป