ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ทำสถิติ *ราคาสูงสุดตลอดกาล* อีกครั้ง โดยเข้าสู่ช่วง ‘การค้นหาราคา’ อย่างชัดเจน ท่ามกลางกระแสเงินทุนจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแวนการ์ด(Vanguard) บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกจากสหรัฐฯ ได้ยืนยันการเข้าลงทุนในบิตคอยน์เป็นครั้งแรก ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดคริปโตในระดับสถาบัน
จากเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) พบว่า แวนการ์ดได้เข้าถือหุ้นประมาณ 8% ในบริษัท สแตรติจี(Strategy Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์จำนวนมหาศาลกว่า *601,550 BTC* นับเป็นการถือครองมากที่สุดในบรรดาผู้ถือหุ้นโดยรวม โดยแวนการ์ดปัจจุบันถือครองหุ้นเกิน 20 ล้านหุ้นในบริษัทดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวนี้นับว่า *ผิดไปจากแนวทางดั้งเดิมของแวนการ์ด* ที่เคยแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับคริปโตเคอร์เรนซีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไม่อนุญาตให้ซื้อขาย ETF ที่มีคริปโตอยู่ในพอร์ต รวมถึงเคยระบุว่าไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว การตัดสินใจหันมาลงทุนในบิตคอยน์จึงถูกมองว่าเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญที่อาจจุดชนวนให้ *เงินทุนในตลาดดั้งเดิมไหลเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง*
พร้อมกันนี้ ราคาบิตคอยน์ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคม ราคาได้เบรกผ่านแนวต้านสำคัญที่ช่วงระหว่าง *109,000-111,872 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.51-1.55 ล้านบาท) และในช่วงต้นสัปดาห์ที่ตลาดยุโรปเปิดทำการ บิตคอยน์ทำสถิติ *ราคาสูงสุดใหม่ที่ 122,838 ดอลลาร์* (ราว 1.7 ล้านบาท) จากข้อมูลของ Coinglass ตลาดอนุพันธ์ของบิตคอยน์เผชิญกับแรงขายชอร์ตอย่างหนัก ทำให้เกิดการ *ชอร์ตสวีซ(force short liquidation)* ในวงกว้าง จนค่ามิเปิดสัญญา(Open Interest) พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ *85,000 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 118.15 ล้านล้านบาท)
ด้านปัจจัยทางเทคนิคก็สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นเช่นกัน โดย *ดัชนี RSI รายสัปดาห์ของบิตคอยน์ทะลุระดับ 70* ซึ่งถือว่าเข้าสู่ภาวะ ‘ซื้อเกิน’ เป็นครั้งแรกในปีนี้ *ค่า MACD ก็แสดงสัญญาณ bullish* และในกราฟ 2 ชั่วโมง พบรูปแบบ ‘higher high และ higher low’ หรือแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น
สำหรับแนวโน้มด้านราคาต่อไป Coinpedia วิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวของแวนการ์ดในครั้งนี้สะท้อนถึง ‘*ความต้องการจากสถาบันที่เพิ่มขึ้น และทิศทางการกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้น*’ ซึ่งทำให้แนวโน้มราคาบิตคอยน์แตะ *150,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 2.08 ล้านบาท) มีความเป็นไปได้มากกว่าราคาจะร่วงกลับลงมาต่ำกว่า *100,000 ดอลลาร์* (ราว 1.39 ล้านบาท)
ตลาดกำลังก้าวเข้าสู่ช่วง ‘euphoric stage’ หรือภาวะฟองสบู่ในรอบวัฏจักรปี 2024-2025 โดยมีการไหลเข้าของเงินทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่สายการเงินอย่างแวนการ์ดอย่างชัดเจน *พร้อมแรงซื้อจากรายย่อยและสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค* ตลาดจึงอาจอยู่ในช่วงเร่งตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อทดสอบ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0