Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 123,000 ดอลลาร์ ทะยานอันดับ 5 ของโลก แต่สัญญาณปรับฐานเริ่มก่อตัว

บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 123,000 ดอลลาร์ ทะยานอันดับ 5 ของโลก แต่สัญญาณปรับฐานเริ่มก่อตัว / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) กลับมาครองเวทีคริปโตอีกครั้งหลังราคาทะลุสถิติสูงสุดที่ระดับ *123,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 17.1 ล้านบาท) ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์พุ่งแตะ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,336 ล้านล้านบาท) และขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าอเมซอน นักลงทุนจำนวนมากยังคงมีความหวังว่าแนวโน้มขาขึ้นนี้จะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม หลายสัญญาณในตลาดเริ่มส่งสัญญาณเตือนว่า *การปรับฐานอาจอยู่ไม่ไกล*

หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญคือดัชนี ‘RSI’ หรือดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 75 ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึง ‘สภาวะร้อนแรงเกินไป’ โดยทั่วไปแล้วค่า RSI ที่เกิน 70 สื่อว่าการซื้อขายอยู่ในพื้นที่ที่อาจเกิดการ *ปรับฐานในระยะสั้น* ได้ ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า RSI ที่สูงผิดปกติในขณะนี้อาจสะท้อนว่าบิตคอยน์มีการ *พุ่งขึ้นแรงเกินความสมเหตุสมผล*

อีกปัจจัยที่น่ากังวลคือปริมาณการโอนบิตคอยน์เข้าสู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา พบการฝากเหรียญเข้าสู่ตลาดมากกว่าการถอนออก ซึ่งถือเป็นสัญญาณของ *แรงขายที่เริ่มก่อตัว* นักลงทุนอาจเริ่มนำเหรียญเข้าตลาดเพื่อรอจังหวะทำกำไร ซึ่งสามารถนำไปสู่แรงกดดันด้านซัพพลายในระยะสั้น

ด้านดัชนีวัดความรู้สึกนักลงทุน ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ (Fear and Greed Index) ยังคงถูกตรึงอยู่ในโซน ‘โลภ’ หรือแม้แต่ ‘โลภอย่างรุนแรง’ โดยต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะบ่งชี้ถึงความมั่นใจของนักลงทุน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สื่อถึง *ความร้อนแรงทางจิตวิทยา* ที่อาจนำไปสู่การกลับตัวของตลาดในลักษณะเดียวกับในอดีตที่เคยประสบภาวะร่วงลงอย่างไม่คาดคิดหลังตลาดถูกครอบงำด้วยความคาดหวังเกินตัว

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ออนเชนอย่างแอลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) รายงานผ่านทวิตเตอร์ว่า เหล่านักขุดบิตคอยน์ได้ทำการขายบิตคอยน์กว่า *3,000 BTC* ในช่วงไม่ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าราว 360 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,004 ล้านบาท) การเทขายในระดับนี้สะท้อนถึงความลังเลต่อการขึ้นราคาต่อไป และอาจชี้ถึง *อุปทานที่เร่งเข้าตลาด* ในช่วงสั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ฝั่ง ‘ดีมานด์’ หรือฝั่งผู้ซื้อยังคงแข็งแกร่ง ข้อมูลจากรายงานล่าสุดระบุว่า นักลงทุนรายย่อยกลุ่ม ‘กุ้ง’, ‘ปู’ และ ‘ปลา’ ซึ่งหมายถึงนักลงทุนที่ถือครองจำนวนน้อย ยังคงซื้อบิตคอยน์ในอัตราที่สูงกว่าปริมาณที่ผลิตขึ้นใหม่จากการขุด เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า *อุปสงค์ยังคงแซงหน้าอุปทาน* และอาจเป็นแรงผลักดันให้บิตคอยน์เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นต่อในระยะกลางถึงยาว

สรุปแล้ว แม้บิตคอยน์จะแสดงศักยภาพในการทำลายสถิติราคา แต่ก็ยังมี ‘แรงกดดันจาก 4 ปัจจัยหลัก’ ได้แก่ ความร้อนแรงทางเทคนิค การไหลเข้าสู่ตลาดของเหรียญ ปัจจัยทางจิตวิทยา และแรงขายจากนักขุด ที่ชี้ถึง *ความเสี่ยงในการปรับฐานระยะสั้น* ขณะเดียวกัน แรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยและแนวโน้มความต้องการทั่วโลก ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการเติบโตในระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และ *บริหารความเสี่ยง* อย่างเหมาะสมในช่วงที่ตลาดเริ่มมีความผันผวนสูงขึ้น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1