เปเป้(PEPE) พุ่ง 27% ทะลุ 5.5 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นเหรียญมีมเบอร์ 3 จ่อแซงชิบะอินุ(SHIB)

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหรียญมีมธีมกบชื่อว่า *เปเป้(PEPE)* พุ่งขึ้นกว่า *27%* จนมีมูลค่าตลาดทะลุ *5.5 พันล้านดอลลาร์* (ประมาณ *76,450 ล้านบาท*) ส่งผลให้เปเป้ขึ้นมาอยู่อันดับ *34* ของตลาดคริปโตโดยรวม และขึ้นแท่นอันดับ *3* ในกลุ่มเหรียญมีม รองจาก *โดจคอยน์(DOGE)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* ขณะนี้ตลาดกำลังจับตามองว่าเปเป้อาจก้าวขึ้นมาแทนที่ชิบะอินุได้หรือไม่

นักวิเคราะห์คริปโตเชื่อว่าการพุ่งขึ้นของเปเป้ไม่ได้เป็นแค่การรีบาวด์ระยะสั้น แต่เป็น ‘*สัญญาณเข้าสู่ตลาดกระทิง*’ อย่างจริงจัง โดยนักวิเคราะห์ด้านข้อมูลคริปโตที่ใช้ชื่อว่า Max ระบุว่า "รูปแบบกราฟของเปเป้ขณะนี้คล้ายกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2024" พร้อมเสริมว่า "นี่คือช่วงเวลาที่ความมั่นใจกลับมาสูงที่สุด" Max ยังชี้ว่าแนวโน้มราคาที่แข็งแกร่งของ *อีเธอเรียม(ETH)* เมื่อเทียบกับ *บิตคอยน์(BTC)* กำลังเสริมแรงส่งให้เปเป้ได้อีกทาง

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ชื่อดังอีกคน ‘Nebraskangooner’ พบว่าในกราฟของเปเป้เริ่มปรากฏแพทเทิร์น ‘*Inverse Head & Shoulders*’ ซึ่งตามหลักเทคนิคมักเป็นสัญญาณเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน ด้าน *อินฟลูเอนเซอร์สายคริปโต Jake Gagain* ก็แสดงความเห็นว่า “เหรียญแห่งการขึ้นรอบนี้คือเปเป้ ไม่ใช่ชิบะอินุอีกต่อไป” พร้อมระบุว่า ชิบะอินุได้ผ่านรอบการเติบโตหลักไปแล้ว ปัจจุบันมูลค่าตลาดของทั้งคู่ห่างกันไม่เกิน *3 พันล้านดอลลาร์* (หรือราว *41,700 ล้านบาท*)

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาเปเป้ให้พุ่ง คือการกลับมาซื้อของ ‘*วาฬ*’ รายใหญ่ โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน กระเป๋าเงินที่อยู่ ‘0x06b3’ ซื้อเปเป้ไปถึง *227.8 พันล้านโทเคน* มูลค่าราว *2.7 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ *37.5 ล้านบาท*) การเคลื่อนไหวเช่นนี้ไม่เพียงแสดงถึง ‘*ความเชื่อมั่นในตลาด*’ แต่ยังลดจำนวนเหรียญที่หมุนเวียน ทำให้แรงกดด้านอุปทานต่ำลง และราคามีโอกาสดันขึ้นต่อ นักลงทุนรายย่อยจำนวนไม่น้อยก็เริ่มเข้าซื้อตาม ขยายแรงส่งให้สูงขึ้นอีก

แต่อย่างไรก็ดี ความกังวลเรื่อง ‘*ภาวะร้อนแรงเกินไปในระยะสั้น*’ ก็เริ่มปรากฏ เปเป้มีค่า RSI (Relative Strength Index) เข้าใกล้ระดับ *70* ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็น ‘โซนซื้อมากเกินไป’ และอาจเปิดทางให้เกิดการปรับฐานราคาในระยะอันใกล้

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า เปเป้กำลังท้าทายตำแหน่งของชิบะอินุในหมวดเหรียญมีมได้อย่างจริงจัง แต่ก็เตือนให้นักลงทุนกลับมาทบทวนความเสี่ยงหลังราคาพุ่งเร็ว พร้อมจับตาการเคลื่อนไหวของวาฬ และบรรยากาศการลงทุนโดยรวมที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางในอนาคต ‘*ความระมัดระวัง*’ จึงยังเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจในช่วงนี้