แคธี วูดเทขายหุ้น ARKB สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท หลังแตกหุ้น 3 ต่อ 1

แคธี วูด(Cathie Wood) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอาร์คอินเวสต์(ARK Invest) ได้จำหน่ายหุ้นในกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตตัวหลักครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัว โดยการขายหุ้นครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก ‘การแตกหุ้น 3 ต่อ 1’ ของกองทุน ARK 21Shares บิตคอยน์ ETF(ARKB) เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ราคาหุ้นต่อหน่วยปรับลดลงและน่าจับตามองในวงการคริปโต

เมื่อวันที่ 25 (เวลาท้องถิ่น) อาร์คอินเวสต์ได้ขายหุ้น *ARBK จำนวน 2 แสน 2,742 หุ้น* ออกจากกองทุน ARK Next Generation Internet ETF(ARKW) ซึ่งเป็นการขายหุ้น ARKB มากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่กองทุนถูกนำออกสู่ตลาดครั้งแรก ด้วยราคาปิดที่ 38.70 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าการขายรวมอยู่ที่ราว *8.7 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *1,209.3 ล้านบาท*

แม้จำนวนหุ้นในการขายครั้งนี้จะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่ในแง่ของมูลค่าแล้ว ต่ำกว่าการขายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่อาร์คอินเวสต์ได้จำหน่าย *หุ้น ARKB จำนวน 1 แสน 5,496 หุ้น* โดยสามารถระดมทุนได้ถึง *1,200 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *1,668 ล้านบาท* เหตุผลมาจากในช่วงเดือนเมษายน ราคาหุ้นต่อหน่วยของ ARKB ยังสูงกว่าในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ

การแตกหุ้นของ ARKB คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวนี้ โดยกองทุนได้ทำการ *แตกหุ้นในอัตรา 3 ต่อ 1* ซึ่งส่งผลให้จำนวนหุ้นโดยรวมเพิ่มขึ้นสามเท่า แต่ *มูลค่าตลาดรวมยังคงเดิม* ขณะที่ราคาต่อหุ้นลดจากราว 90 ดอลลาร์ เหลือประมาณ 30 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้กองทุนกลับมายืนเหนือระดับราคาสูงสุดใหม่อีกครั้งหลังการแตกหุ้น

ในช่วงที่ผ่านมา ประสิทธิภาพของ ARKB ยังคงแข็งแกร่งตามทิศทางราคาของบิตคอยน์(BTC) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความต้องการถือครองบิตคอยน์จากนักลงทุนสถาบัน ปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ ETF บิตคอยน์หลายรายการยังคงสม่ำเสมอ และมีรายงานว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มี *เงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์* หลั่งไหลเข้าสู่กองทุนที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์

แม้ครั้งนี้จะเป็นการขายหุ้นจำนวนมาก แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเพียง *กลยุทธ์การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน* ตามปกติของอาร์คอินเวสต์ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ แสดงท่าทีสนับสนุนสินทรัพย์คริปโตอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์หลายรายจึงชี้ว่า *การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายและสภาพแวดล้อมของตลาด* อาจกลับมาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับกองทุน ETF บิตคอยน์ในระยะถัดไปอีกครั้ง