สหรัฐฯ ตั้งข้อหา 22 กระทง ผู้ต้องสงสัยรัสเซียใช้คริปโตฟอกเงินกว่า 530 ล้านดอลลาร์ผ่านUSDT

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาอาญาทั้งหมด 22 กระทงต่อ ยูริ กูกนิน(Iurii Gugnin) สัญชาติรัสเซีย ซึ่งอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ *การหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรและการฟอกเงินข้ามชาติผ่านคริปโตเคอร์เรนซี* กูกนินซึ่งใช้ชื่อปลอมว่า ‘จอร์จ กูกนิน(George Goognin)’ และ ‘ยูริ มาชูคอฟ(Iurii Mashukov)’ ถูกกล่าวหาว่าใช้บริษัทคริปโตที่ตนเองก่อตั้งในการฟอกเงินอย่างผิดกฎหมายมากถึงราว *7,370 พันล้านวอน (ประมาณ 530 ล้านดอลลาร์)*

ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรม กูกนินได้สร้างเครือข่ายทางการเงินโดยใช้ *เทเธอร์(USDT)* ผ่านบริษัทของเขาคือ ‘อีวิต้า อินเวสต์เมนต์ส์(Evita Investments)’ และ ‘อีวิต้า เพย์(Evita Pay)’ เพื่อเชื่อมโยงกับธนาคารในสหรัฐฯ และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต การดำเนินงานเหล่านี้เอื้อต่อองค์กรในรัสเซียที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ให้สามารถโอนเงินโดยลับ รวมถึงเข้าถึงเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว โดยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบผ่านการปลอมเอกสาร หลอกลวงธนาคาร และบิดเบือนเอกสารด้านระเบียบกำกับ

ประเด็นสำคัญคือ กูกนินและบริษัทของเขาเพิกเฉยต่อ*ข้อบังคับต่อต้านการฟอกเงิน (AML)* และไม่ยื่นรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย (SAR) ซึ่งถือเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อ ‘กฎหมายความลับของธนาคาร (Bank Secrecy Act)’ ของสหรัฐฯ หน่วยงานตรวจสอบยังวิเคราะห์ว่า บริษัทเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น *ช่องทางลับระดับภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่ช่วยให้เกิดการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร*

กระทรวงฯ ยังเปิดเผยว่า กูกนินเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่อธิบายวิธี *หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ รวมถึงข้อมูลสัญญาณที่ใช้ในการสืบสวนอาชญากรรม* โดยถือเป็นหลักฐานว่าเขาวางแผนและรับมือกับการสืบสวนอย่างเป็นระบบ

ในเวลานี้ กูกนินกำลังเผชิญกับข้อหา เช่น *ฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ (wire fraud)*, *ฉ้อโกงธนาคาร (bank fraud)* รวมถึง *ฟอกเงิน (money laundering)* รวมทั้งหมด 22 กระทง โดยแต่ละข้อหามีโทษสูงสุดถึง *จำคุก 30 ปี* หากถูกตัดสินว่ามีความผิด โทษที่ตามมาอาจยาวนานหลายสิบปี

กรณีนี้แสดงให้เห็นว่า *กลไกการหลีกเลี่ยงคว่ำบาตรที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซีเริ่มมีความซับซ้อนและแนบเนียนมากขึ้น* และเป็นสัญญาณว่า *รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการเข้มงวดทั้งด้านกำกับและการตรวจสอบต่ออาชญากรรมทางการเงินที่อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลัก* ความเห็นหนึ่งระบุว่า เมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลถูกนำมาใช้ในเครือข่ายอาชญากรรมระหว่างประเทศมากขึ้น โลกกำลังเข้าสู่ยุคของการถกเถียงอย่างจริงจังเกี่ยวกับ *สมดุลระหว่างความมั่นคงและการเปิดกว้างของคริปโต* ในระดับสากล