ควอนตัมคอมพิวติ้งคืออุกกาบาตลูกใหม่? ผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยมืดที่อาจล้างระบบบล็อกเชน

เดวิด คาร์วัลยู(David Carvalho) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนาโอริส โปรโตคอล(Naoris Protocol) เตือนว่าความก้าวหน้าของ *ควอนตัมคอมพิวติ้ง* กำลังกลายเป็น ‘ภัยคุกคามระดับดำรงอยู่’ ต่ออุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ วงการส่วนใหญ่ยังคง *เพิกเฉย* ต่อปัญหานี้อย่างน่ากังวล

คาร์วัลยูเริ่มต้นเส้นทางในวงการความปลอดภัยไซเบอร์จากการทดลองส่งอีเมลสแปมตั้งแต่ตอนอายุเพียง 13 ปี ก่อนจะผันตัวจาก *แฮกเกอร์* มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันไซเบอร์ ปัจจุบันเขามุ่งเน้นการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยที่ *ต้านทานควอนตัม* สำหรับเครือข่ายแบบกระจายศูนย์

เขาระบุว่า โครงสร้างการเข้ารหัสของบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และบล็อกเชนหลักอื่น ๆ ยังคงพึ่งพาระบบเข้ารหัสแบบเดิมที่เก่าและล้าสมัย พร้อมเตือนด้วยว่า “ทุกวันนี้บล็อกเชนส่วนใหญ่ยังใช้แบบแผนการเข้ารหัสที่โลกใช้อย่างกว้างขวางมานานหลายสิบปี… ควอนตัมคอมพิวติ้งจะมาถล่มระบบเข้ารหัสทั้งระบบ ราวกับอุกกาบาตที่เคยทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์”

แม้นักพัฒนาในวงการบล็อกเชนจำนวนไม่น้อยมองว่ายังมีเวลาอีกนานก่อนที่ควอนตัมคอมพิวติ้งจะเป็นภัยจริง คาร์วัลยูกลับเห็นว่า ‘เวลา’ นั้นอาจจะเหลือน้อยกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าโครงการบางแห่งเริ่มสำรวจลายเซ็นที่ต้านทานควอนตัม แต่เขาชี้ว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวในระดับอุตสาหกรรม และยังไม่มีใครตระหนักถึง *ความเร่งด่วนที่แท้จริง* จากภัยคุกคามนี้

หากควอนตัมคอมพิวติ้งกลายเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง ระบบคีย์เข้ารหัสแบบสาธารณะที่ใช้กันทั่วไปจะถูกทำลายได้โดยง่าย ซึ่งเสี่ยงต่อการที่ *โครงสร้างความปลอดภัยพื้นฐานของบล็อกเชน* จะถูกเจาะทะลุ และกระเป๋าคริปโตของผู้ใช้งานอย่างบิตคอยน์เองก็อาจไม่ปลอดภัย

คำเตือนของคาร์วัลยูไม่ได้เป็นเพียงการคาดการณ์เชิงเทคนิคเท่านั้น หากแต่เป็นการเร่งเร้าชุมชนบล็อกเชนทั่วโลกให้ *เร่งดำเนินการปรับโครงสร้างระบบความปลอดภัย* ให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ที่ควอนตัมคอมพิวติ้งอาจเข้ามาเปลี่ยนเกมทั้งหมด ความอยู่รอดของเทคโนโลยีคริปโตอาจขึ้นอยู่กับการเตรียมรับมือภัยเงียบนี้ก่อนจะสายเกินไป