เอฟว์เอวี(AAVE) ดัน TVL ดีไฟพุ่ง 15,000 ล้านดอลลาร์–ครองสัดส่วน 31% พร้อมราคาพุ่งกว่า 36%

โปรโตคอลการเงินไร้ตัวกลางชื่อดังอย่าง *เอฟว์เอวี(AAVE)* กำลังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ร้อนแรงในตลาดดีไฟ(DeFi) โดยมีการเปิดเผยว่า *มากถึง 31% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ถูกล็อค (TVL)* ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา มาจากเอฟว์เอวีเพียงเจ้าเดียว หลังจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา TVL ของตลาดดีไฟโดยรวมเพิ่มขึ้นราว *49,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.78 ล้านล้านบาท)* ซึ่งในจำนวนนั้น *15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 543,000 ล้านบาท)* มาจากเอฟว์เอวี

โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ดีไฟ *Dune Analytics* ที่เผยแพร่โดยผู้ใช้งานในชื่อ Sealaunch ระบุว่า *ทุก ๆ TVL ที่เพิ่มขึ้น 10,000 ล้านดอลลาร์ จะมี 3,000 ล้านดอลลาร์ที่เป็นของเอฟว์เอวี* ซึ่งแสดงถึงสถานะผู้นำในตลาดแพลตฟอร์มปล่อยกู้แบบกระจายศูนย์

เอฟว์เอวีมอบทางเลือกให้ผู้ใช้งานฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น *สเตเบิลคอยน์, บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH)* โดยไม่ต้องพึ่งคนกลาง ผู้ใช้งานสามารถใช้สินทรัพย์ดังกล่าวเป็นหลักประกันเพื่อกู้เงินได้ ขณะเดียวกันดอกเบี้ยจะคำนวณตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดแบบอัตโนมัติ ส่งผลให้ผู้ฝากได้รับผลตอบแทนอย่างโปร่งใส

ในปีนี้ เอฟว์เอวีได้สร้างสถิติใหม่ โดยในเดือนกรกฎาคม แพลตฟอร์มมี *TVL สุทธิทะลุระดับ 50,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.78 ล้านล้านบาท)* เป็นครั้งแรก นับเป็นอีกก้าวสำคัญต่อจากทิศทางตลาดขาขึ้นที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน

ส่วนหนึ่งของการเติบโตเกิดจากความพยายามของเอฟว์เอวีในการขยายฐานไปยังตลาดสถาบัน โดยเคยเปิดตัว *Aave Arc* ในปี 2021 ซึ่งเป็นโปรโตคอลแบบมีใบอนุญาต รองรับการตรวจสอบตัวตน (KYC) และระบบป้องกันการฟอกเงิน (AML) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าหน่วยงานโดยเฉพาะ เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ใน *Project Guardian* ที่นำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการทดลองสภาพแวดล้อมด้านสินทรัพย์โทเคน นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอฟว์เอวียังประกาศเปิดตัว *Horizon Plan* ซึ่งเป็นแผนการบูรณาการสินทรัพย์จริง (RWA) เข้ากับระบบดีไฟในวงกว้าง

ขณะเดียวกัน ในฝั่งของชุมชน เอฟว์เอวีเพิ่งอนุมัติข้อเสนอใหม่ด้วยคะแนนเสียง *เห็นชอบถึง 99.8%* ในการเปิดตัว *Aave V3 เวอร์ชันบนบล็อกเชน Ink ที่พัฒนาโดยกระดานเทรดคราเคน(Kraken)* เวอร์ชันใหม่นี้จะเป็นแบบรวมศูนย์ โดยใช้รูปแบบ white-label และจะเข้าสู่กระบวนการลงคะแนนเสียงแบบออนเชน (AIP) เพื่ออนุมัติขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ *มูลนิธิ Ink* จะสนับสนุนเงินทุนเบื้องต้น และ เอฟว์เอวีจะทำรายได้จากค่าธรรมเนียมการปล่อยกู้บนโปรโตคอลดังกล่าว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถูกมองว่าเป็น *ก้าวแรกของเอฟว์เอวีสู่การขยายสู่ตลาดการเงินสถาบันอย่างจริงจัง* โดย *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แนวทางนี้อาจเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกดีไฟและการเงินแบบดั้งเดิม

ราคาของโทเคน *เอฟว์เอวี(AAVE)* ก็สะท้อนแรงสนับสนุนจากตลาดเช่นกัน โดย *ในรอบเดือนที่ผ่านมา พุ่งขึ้นมากกว่า 36%* ทะลุระดับราคา *330 ดอลลาร์ (ประมาณ 45,870 บาท)* ถือเป็นการรวมตัวของศักยภาพในการขยายตัวทางเทคโนโลยี และจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในระบบนิเวศดีไฟโดยรวม