โกลด์แมน แซคส์จับมือ BNY Mellon เปิดตัวกองทุนตลาดเงินแบบโทเคน ดันการเงินดั้งเดิมสู่ยุคดิจิทัล

โกลด์แมน แซคส์(Goldman Sachs) ธนาคารเพื่อการลงทุนชื่อดังจากวอลล์สตรีท จับมือกับบีเอ็นวาย เมลลอน(BNY Mellon) ธนาคารรับฝากทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวบริการ ‘กองทุนตลาดเงินแบบโทเคน’ สำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อให้สามารถซื้อขายแบบ *เรียลไทม์* และจัดการการชำระบัญชีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งถูกคาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการผสานระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล

บริการใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าของบีเอ็นวาย เมลลอนสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์กองทุนตลาดเงินของโกลด์แมน แซคส์ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนส่วนตัว *โดยตรง* โดยมีกระบวนการตรวจสอบความเป็นเจ้าของสินทรัพย์อยู่บนระบบบล็อกเชน ช่วยให้การทำธุรกรรมดำเนินได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และลดข้อจำกัดด้านเวลาที่มักพบในโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินแบบดั้งเดิม

ไรด์ เมจิยากเบ(Laide Majiyagbe) หัวหน้าฝ่ายสภาพคล่อง การเงิน และหลักประกันของบีเอ็นวาย เมลลอน ระบุว่า “ในช่วงเวลาที่ระบบการเงินกำลังก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลและมีการประมวลผลแบบเรียลไทม์มากขึ้น บีเอ็นวี เมลลอนมุ่งเน้นการจัดหาโซลูชันที่มีทั้งความปลอดภัยและความสามารถในการขยายตัว เพื่อวางมาตรฐานใหม่ของการเงินในอนาคต”

โครงการนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทรายใหญ่ในวงการสินทรัพย์ดั้งเดิม อาทิ แบล็คร็อก(BlackRock), ฟิเดลิตี้ อินเวสต์เมนส์(Fidelity Investments) และเฟเดอเรเต็ด เฮอร์มีส(Federated Hermes) ทั้งนี้ทั้งโกลด์แมน แซคส์และบีเอ็นวาย เมลลอนยังมีส่วนร่วมในฐานะผู้ขับเคลื่อนหลักของโครงการ เน้นการขยายผลเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง

การเปิดตัวกองทุนแบบโทเคนในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ อนุมัติ *กฎหมาย GENIUS* ซึ่งมีเนื้อหาหลักในการห้าม *สเตเบิลคอยน์ที่ให้ผลตอบแทนแบบดอกเบี้ย* และจัดระเบียบกรอบกำกับดูแลของระบบสเตเบิลคอยน์อย่างชัดเจน โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นมากกว่า 300 เสียงจากสภาผู้แทนราษฎรและได้รับการลงนามโดยประธานาธิบดีทรัมป์เรียบร้อยแล้ว

*ความคิดเห็น*: การที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจังในทิศทางของโทเคนไรเซชัน ถือเป็นสัญญาณสำคัญว่าโลกการเงินกำลังปรับตัวสู่โลกดิจิทัลในจังหวะที่นโยบายและเทคโนโลยีพร้อมต่อการใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน