อดีตทนาย SEC ชี้คดีริปเปิล(XRP) อาจจบก่อนปี 2026 จับตาผลกระทบตลาดหากยุติอุทธรณ์เร็ว

ข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างบริษัทริปเปิล(XRP)กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ที่ยืดเยื้อมาตลอดหลายปี ยังคงเรียกความสนใจในแวดวงคริปโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีสัญญาณว่าคดีนี้จะสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้ แต่ชุมชนคริปโตเริ่มแสดงความเหนื่อยล้าจากความล่าช้าและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม อดีตทนายของ SEC ระบุว่า คดีนี้อาจจบสิ้นภายในเวลาอันใกล้และไม่เกินปี 2026 ซึ่งถือเป็นความหวังใหม่ของวงการ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อผู้พิพากษาอันนาลิซา ตอร์เรส ซึ่งรับผิดชอบคดีนี้ โดยมีบางกลุ่มที่กล่าวหาว่าผู้พิพากษา ‘ถ่วงเวลา’ คำตัดสิน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายชี้ว่า *สถานการณ์มีความซับซ้อนเกินกว่าที่เห็นจากภายนอก*

มาร์ก แฟเกล(Marc Fagel) อดีตผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคของ SEC ได้ออกมาชี้แจงว่า ขณะนี้ ‘ผู้พิพากษาตอร์เรสไม่มีเขตอำนาจศาลในคดีอีกต่อไป’ เนื่องจากทั้งริปเปิลและ SEC ต่างได้ยื่นอุทธรณ์ ทำให้เรื่องถูกรับไปพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว คำสั่งใด ๆ จากผู้พิพากษาตอร์เรส โดยเฉพาะในเรื่อง ‘บทลงโทษทางการเงิน’ จะมีผลก็ต่อเมื่อต่างฝ่ายต่างถอนคำอุทธรณ์เท่านั้น

แม้มีบางฝ่ายแสดงความกังวลว่าคดีนี้อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 แต่แฟเกลยืนยันว่าไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ พร้อมทั้งชี้ว่า แม้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจของ SEC หรือกฎเกณฑ์ด้านคริปโตจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต แต่ *คำตัดสินในอดีตก็ยังชัดเจนว่า ‘การขาย XRP ของริปเปิลในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นการละเมิดกฎหมายตามเกณฑ์ขณะนั้น’* ซึ่งหมายความว่า การเปลี่ยนแปลงกฎในอนาคตจะไม่ย้อนกลับมามีผลต่อคดีนี้

ในประเด็นที่ SEC ยังไม่มีการแถลงท่าทีในช่วงเวลาที่ผ่านมา แฟเกลอธิบายว่า “ตามขั้นตอนทางระบบของ SEC การอนุมัติการดำเนินการใด ๆ ต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ย 1–2 เดือน” และแนะแนวว่าศาลแขวงเพิ่งปฏิเสธการปรับเปลี่ยนแนวทางแก้ไขบางประการ ทำให้ยังต้องรอเวลาอีกเล็กน้อยก่อนเกิดความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ หากกระบวนการอุทธรณ์ของคดี XRP ยุติลงโดยเร็ว มาตรการทางการเงินที่ผู้พิพากษาตอร์เรสได้สั่งไว้ก็จะสามารถถูกนำมาใช้ได้ทันที ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อตลาด สร้างแรงจับตาจากนักลงทุนอย่างมาก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายประเมินว่า *ประเด็นกฎหมายในคดีนี้อาจเริ่มหมดไป แต่ความขัดแย้งเชิงการเมืองกำลังเป็นอุปสรรคหลักที่เหลืออยู่* นั่นอาจหมายถึงจุดจบของคดีนี้ใกล้เข้ามากว่าที่หลายคนคาดไว้