อีเธอเรียม(ETH) แซงบิตคอยน์(BTC) ขึ้นแท่นผู้นำตลาดคริปโต พร้อมเป้าหมายใหม่ 4,000 ดอลลาร์

อีเธอเรียม(ETH) กำลังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดคริปโต โดยแซงหน้าทั้งบิตคอยน์(BTC) และริปเปิล(XRP) จนกลายเป็นผู้นำของรอบนี้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ราคาของ ETH เริ่มเร่งตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.4 ล้านบาท) และพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 3,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.2 ล้านบาท) แม้ภายหลังจะมีการปรับฐานเล็กน้อย แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นเพียง *การย่อตัวอย่างแข็งแรง* เพื่อสร้างฐานสำหรับการขึ้นต่อ

ในเชิงเทคนิค อีเธอเรียมได้ฝ่ากลุ่มราคาที่เคลื่อนไหวแคบ ๆ มานานหลายเดือน และตอนนี้กำลังก่อตัวในรูปแบบขาขึ้นอย่างชัดเจน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 200 วันต่างก็หันขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ *ตลาดกระทิง* ระยะยาว นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งก็สนับสนุนการขึ้นของราคาอย่างมั่นคง ขณะที่ดัชนี RSI ยังไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงมากนัก จึงยังมี *แรงส่งให้ขึ้นต่อ* ได้อีก

ในขณะเดียวกัน โซลานา(SOL) ยังคงเผชิญแรงต้านแข็งแกร่งและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่บิตคอยน์ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวราคาด้านข้างออกไปได้ ท่ามกลางภาวะเช่นนี้ อีเธอเรียมจึงโดดเด่นขึ้นอย่างมาก ดึงดูดสายตาของนักลงทุน นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่ชี้ว่า *เงินทุนกำลังย้ายออกจากเว็บเทรดแบบรวมศูนย์ ไปยังวอลเล็ตส่วนตัว* ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของการถือครองระยะยาว

ปัจจัยภายนอกก็เป็นใจต่อการขึ้นของ ETH ด้วย เนื่องจากอีเธอเรียมไม่ได้อยู่ภายใต้แรงกดดันด้านกฎระเบียบเหมือนบางสินทรัพย์อื่น ๆ ที่กำลังเผชิญข้อพิพาทกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) อีกทั้งยังไม่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความผันผวนที่เกิดจากประเด็น ETF ต่าง ๆ ทำให้เกิดแรงหนุนด้านจิตวิทยาการลงทุนมากยิ่งขึ้น

หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 3,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท) ได้อย่างมั่นคง แนวต้านถัดไปก็อาจอยู่ที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านบาท) ขึ้นไป และรอบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเพียงแค่ผลของ *กระแสข่าวลือ* แต่มีพื้นฐานมาจากการปรับตัวของตัวชี้วัดทางเทคนิค และการเคลื่อนย้ายของเงินทุนที่จับต้องได้

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า หากอีเธอเรียมยังรักษา ‘แรงส่งที่แข็งแกร่ง’ เช่นนี้ไว้ได้ ก็มีแนวโน้มว่าจะยังคงชิงบทบาทผู้นำตลาดได้ต่อ อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงความเสถียรด้านกฎระเบียบและศักยภาพในการเติบโต ความเห็นส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า *อีเธอเรียมจะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า*