Bitzero ระดมทุนกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ลุยขุดบิตคอยน์(BTC) เร่งสร้างศูนย์ข้อมูลรองรับ AI แบบยั่งยืน

Bitzero ระดมทุนได้กว่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 347.5 พันล้านวอน) เพื่อขยายธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซีและศูนย์ข้อมูลในอเมริกาเหนือและยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชื่อดังอย่าง เควิน โอเลียรี่(Kevin O’Leary) ซึ่งเป็นที่รู้จักในรายการ "Shark Tank" ด้านงบลงทุนจะมุ่งเน้นไปยังการจัดซื้ออุปกรณ์เหมืองประสิทธิภาพสูงและการขยายโครงสร้างพื้นฐานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ

บริษัทเตรียมนำเงินทุนส่วนนี้ไปติดตั้งเครื่องขุดรุ่นล่าสุด S21 Pro จากบิตเมน(Bitmain) จำนวน 2,900 เครื่อง ภายในระยะเวลา 4 ถึง 6 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ต่อปีอีกกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 139 พันล้านวอน) พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะที่บริษัทเหมืองรายอื่นมักเช่าพื้นที่ภายนอกเพื่อดำเนินงาน Bitzero กลับเลือกลงทุนในทรัพย์สินของตนเอง ทั้งที่ดิน แหล่งพลังงาน และอุปกรณ์ ซึ่งศูนย์ดำเนินงานของบริษัทอยู่ในพื้นที่อากาศหนาว เช่น นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และมลรัฐนอร์ทดาโคตา สหรัฐฯ โดยเน้นใช้พลังงานสะอาดและมีเป้าหมายลดการใช้ไฟฟ้า พร้อมสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ไม่เพียงแค่ทำเหมืองบิตคอยน์(BTC) เท่านั้น Bitzero ยังเร่งเปลี่ยนตัวเองสู่ผู้ให้บริการ ‘โครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูล’ สำหรับตลาดองค์กรที่มีความต้องการคำนวณประสิทธิภาพสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์(AI) และคลาวด์ โดยปัจจุบันมีโครงการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่จำนวน 4 แห่ง ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด โมฮัมเหม็ด บาคาชีวาอิน ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า “วันนี้ไม่ใช่แค่ศูนย์ข้อมูลธรรมดาอีกต่อไป แต่ต้องเป็นโครงสร้างพื้นฐานความสามารถสูงที่ทั้งยั่งยืนและมีประสิทธิภาพการคำนวณสูงไปพร้อมกัน”

ในอีกมุมหนึ่ง เควิน โอเลียรี่ ยังคงมอง ‘บิตคอยน์’ เป็นสินทรัพย์คริปโตที่เชื่อถือได้มากที่สุด พร้อมแสดงจุดยืนที่สงวนท่าทีต่ออีเธอเรียม(ETH) โดยในการสัมภาษณ์ล่าสุดเขาระบุว่า “บิตคอยน์ยังคงเป็นคำตอบเดียวสำหรับคนที่ต้องการเข้าสู่โลกของคริปโต” พร้อมวิจารณ์ว่า “ETH ทำงานช้า และเมื่อมีธุรกรรมมาก ระบบก็ยิ่งแสดงปัญหาเรื่องการขยายตัวให้เห็นชัด”

การระดมทุนครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเร่งการเติบโตของ Bitzero โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินงานที่เน้น ‘การขุดและการประมวลผลคาร์บอนต่ำประสิทธิภาพสูง’ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการรองรับความต้องการด้านคอมพิวเตอร์แบบ AI ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น Bitzero กำลังสร้างบทบาทผู้นำในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่ยั่งยืน พร้อมเดินหน้าเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีสะอาดทั่วโลก