ชิบะอินุ(SHIB) เปลี่ยนโครงสร้างตลาด: วาฬถือครองเหรียญ 74% หนุนแนวโน้มระยะยาว

โครงสร้างตลาดของเหรียญชิบะอินุ(SHIB) กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน อินทูเดอะบล็อก (IntoTheBlock) ระบุว่า มากถึง *74%* ของปริมาณชิบะอินุที่หมุนเวียนในระบบ ถูกถือครองโดยผู้ถือขนาดใหญ่ หรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม ‘วาฬ’ โดยวาฬในที่นี้หมายถึงกระเป๋าที่ถือครองมากกว่า 1% ของเหรียญทั้งหมด หรือถือเหรียญในปริมาณมากมาเป็นระยะเวลานาน การกระจุกตัวในระดับนี้ มักถูกตีความว่าเป็น *สัญญาณว่าเหล่านักลงทุนรายใหญ่กำลังเข้าซื้ออย่างมั่นใจ* เพื่อรองรับการฟื้นตัวของตลาดหรือรอบใหม่ของการปรับตัวขึ้นของราคา

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังรวมถึงที่อยู่กระเป๋าของผู้ให้บริการซื้อขายและแอปพลิเคชัน DeFi ต่าง ๆ ด้วย จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นนักลงทุนรายบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ถึงกระนั้น การกระจายตัวของเหรียญที่ลดลงเช่นนี้ อาจนำไปสู่ *สภาพคล่องในตลาดที่ลดลงและความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น* ขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึง *การเข้าสะสมระยะยาวด้วยความคาดหวังการเติบโตในอนาคต*

ข้อมูลอีกชุดจากอินทูเดอะบล็อก ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันมี *กระเป๋าที่ถือ SHIB ไว้เกิน 1 ปี คิดเป็น 79% ของจำนวนทั้งหมด* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไหลเข้าของนักลงทุนที่เน้นการถือระยะยาว มากกว่าการเข้ามาลงทุนระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร ความมั่นใจนี้ได้แรงสนับสนุนจากการขยายตัวของ *กรณีการใช้งานจริงของชิบะอินุ* โดยเฉพาะการเปิดใช้งานของบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ที่ชื่อว่า *ชิบาเรียม(Shibarium)* ซึ่งถูกมองว่าเป็นปัจจัยหลักที่เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือเหรียญ

ในด้านราคานั้น SHIB กำลังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ $0.00001405 (ประมาณ 0.019 บาท) หลังจากที่ร่วงลงต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา จนต่ำสุดที่ $0.00001299 (ประมาณ 0.018 บาท) ก่อนจะรีบาวด์กลับขึ้นมา ล่าสุด SHIB ขยับในกรอบแคบระหว่าง $0.00001392 ถึง $0.00001422 และราคาระหว่างนี้ยังติดอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ โดย *แนวต้านจากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ $0.00001427 (ประมาณ 0.020 บาท)* และ *แนวรับจากเส้น 50 วันที่ $0.00001265 (ประมาณ 0.018 บาท)* ถือเป็นจุดชี้ขาดทิศทางในอนาคตอันใกล้

สถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าชิบะอินุกำลังเข้าสู่ช่วงของ *การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของโทเคน(token economy)* โดยมีทั้งความเคลื่อนไหวของวาฬและการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนระยะยาว ซึ่งอาจส่งสัญญาณว่าชิบะอินุกำลังขยับจากสถานะ ‘มีมคอยน์’ ไปสู่การเป็นโครงการที่มีระบบนิเวศอย่างแท้จริง *ความคิดเห็น:* แม้ว่าการถือครองส่วนใหญ่โดยไม่กี่กระเป๋านั้นอาจเป็นตัวเร่งความผันผวนหรือการบิดเบือนราคาได้ แต่ก็นับเป็นสัญญาณที่นักลงทุนควรจับตาอย่างระมัดระวัง