เจพีมอร์แกน(JPM) จับมือคอยน์เบส(COIN) เปิดทางใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต พร้อมแปะคะแนนสะสมเป็น USDC

เจพีมอร์แกนเชส(JPM) ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจมี ไดมอน(Jamie Dimon) ได้จับมือกับบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดัง คอยน์เบส(COIN) เพื่อเปิดให้บริการฟีเจอร์ใหม่ที่เชื่อมโยงระหว่าง *ระบบการชำระเงินด้วยคริปโต*, *โปรแกรมสะสมแต้ม* และ *การเชื่อมโยงบัญชีธนาคาร* โดยตรง นับเป็นก้าวสำคัญของภาคการเงินดั้งเดิมสู่การสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้าง

เมื่อวันที่ 12 (เวลาท้องถิ่น) คอยน์เบสประกาศผ่านบล็อกทางการว่า ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตเชส(Chase) จะสามารถใช้บัตรในการซื้อคริปโตโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มของคอยน์เบสได้ โดยสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับมีทั้ง *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และเหรียญอื่นๆ ที่เปิดให้ซื้อขายบนคอยน์เบส

อีกก้าวสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ เจพีมอร์แกนยังได้วางแผนว่า ตั้งแต่ปี 2026 ลูกค้าจะสามารถเปลี่ยนคะแนนสะสมเชส ‘Ultimate Rewards Points’ เป็น *เหรียญ USDคอยน์(USDC)* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ผูกค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ทางฝั่งคอยน์เบสระบุว่า การนำระบบรางวัลจากบัตรเครดิตมามอบเป็นคริปโตถือเป็น *ครั้งแรกของอุตสาหกรรม* และชี้ว่าข้อตกลงนี้มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ในการเชื่อมโลกการเงินสองฝั่ง

นอกจากนี้ ภายในปี 2026 เจพีมอร์แกนยังเตรียมเปิดใช้งานฟีเจอร์ให้ผู้ใช้บัตรเชสสามารถเชื่อมบัญชีเข้ากับคอยน์เบสได้โดยตรง ช่วยให้การซื้อคริปโตหรือโอนย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปได้ *เร็วและสะดวกยิ่งขึ้น* โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรซ้ำซ้อน

ด้วยความร่วมมือนี้ เจพีมอร์แกนมีเป้าหมายในการเพิ่ม *การเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล* ให้กับลูกค้า ในขณะที่คอยน์เบสได้วางรากฐานความร่วมมือระยะยาวกับธนาคารระดับโลก ความเคลื่อนไหวของทั้งสองบริษัทถูกมองว่าอาจเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ที่เร่งให้ระบบการเงินโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

*ความคิดเห็น*: ความร่วมมือระหว่างผู้เล่นรายใหญ่จากทั้งวงการการเงินดั้งเดิมและคริปโตเช่นนี้สะท้อนภาพการขยับเข้าหากันของสองโลก ที่ผ่านมาอาจเคยถูกมองว่าแยกจากกัน ความร่วมมือในครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก