บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ส่งผลให้ช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบิตคอยน์ของตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก (CME) เมื่อเดือนกรกฎาคมถูกปิดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า *การปรับตัวลดลงรอบนี้เป็นผลจากนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่กดดันตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมและสร้างแรงกดดันต่อจิตวิทยาการลงทุน*

เมื่อนโยบายภาษีใหม่นี้ถูกเปิดเผยโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ผลกระทบในเชิงลบได้สั่นสะเทือนตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ที่ปรับตัวลงหนักกว่าหุ้นทั่วไป แม้ดัชนีหุ้นแนสแด็กและ S&P 500 ยังคงยืนอยู่ในแดนบวก แต่นักลงทุนดูเหมือนจะลดน้ำหนักการถือครองคริปโตลงอย่างเห็นได้ชัด *ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า บิตคอยน์กำลังแสดงบทบาทของสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความไวต่อแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจสูงที่สุด*

ในหมู่ผู้เล่นตลาดเองก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน บางส่วนมองว่า การปรับฐานรอบนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงท้าย และราคาน่าจะใกล้เคียงระดับต่ำสุดแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายมองว่า หากนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยิ่งทวีความแข็งกร้าว แนวโน้มขาลงอาจยังไม่สิ้นสุด จุดที่หลายคนจับตาคือ *แรงซื้อที่รองรับเมื่อราคาบิตคอยน์เข้าใกล้แนวรับทางเทคนิคสำคัญจะเพียงพอหรือไม่ในการหยุดการร่วงของราคา*

ในอีกด้านหนึ่ง ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มุ่งเน้นเพิ่มความเข้มข้นในนโยบายการค้าปกป้องประเทศ ยังสร้างความกังวลให้กับตลาดคริปโต โดย *นโยบายด้านภาษีของทรัมป์อาจกลายเป็นปัจจัยลบเชิงจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล และเพิ่มความผันผวนให้ตลาดในระยะกลางถึงยาว* ความไม่แน่นอนยังคงปกคลุมตลาด แม้บิตคอยน์จะสามารถปิดแท่งเทียนบางส่วนในเชิงเทคนิคได้ก็ตาม

นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในด้านนโยบายการเงิน รวมถึงท่าทีในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่จะชี้ทางของตลาดคริปโตในช่วงต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญ