Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) พุ่งหนุนกำไรสแตรทิจี-เทเธอร์พุ่งทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 2/2025

บิตคอยน์(BTC) พุ่งหนุนกำไรสแตรทิจี-เทเธอร์พุ่งทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 2/2025 / Tokenpost

ราคาบิตคอยน์(BTC) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์เป็นจำนวนมาก โดยล่าสุดทั้งบริษัทเทคโนโลยีการลงทุน ‘สแตรทิจี’ ที่นำโดยไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) และผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ ‘เทเธอร์(Tether)’ ต่างก็ออกมาเปิดเผยว่าสามารถทำ ‘กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์’ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025

สแตรทิจี ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่าไมโครสแตรทิจี ประกาศว่าบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านล้านวอน) ในไตรมาส 2 นี้ ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 32.60 ดอลลาร์ พลิกกลับจากขาดทุน 1,262 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.76 ล้านล้านวอน) ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอย่างชัดเจน สาเหตุหลักของการเติบโตครั้งนี้มาจาก *กลยุทธ์ลงทุนในบิตคอยน์* ที่บริษัทใช้มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สแตรทิจีถือครองบิตคอยน์ทั้งสิ้น 628,791 เหรียญ คิดเป็นต้นทุนรวมราว 46,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 63.9 ล้านล้านวอน) โดยมีมูลค่าตลาดขณะนี้อยู่ที่ราว 72,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 100 ล้านล้านวอน)

เฉพาะปีนี้ สแตรทิจีสามารถสร้างผลตอบแทนจากบิตคอยน์ได้แล้วถึง 25% และเพียงไตรมาสเดียวก็ได้กำไรแบบยังไม่ขายเป็นจำนวน 14,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 19.5 ล้านล้านวอน) ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจปรับเป้าหมายรายปีขึ้น จากผลตอบแทน 25% ไปที่ 30% และยอดกำไรจาก 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20.8 ล้านล้านวอน) เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 27.8 ล้านล้านวอน) ซีอีโอ ฟง ลี(Phong Le) กล่าวยืนยันว่า “ผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ใช้บิตคอยน์เป็นคลังสินทรัพย์และความมั่นคงด้านโครงสร้างเงินทุนของเรา” ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน แอนดรูว์ คัง(Andrew Kang) ระบุว่า “แม้นำไปเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในโลก ก็ถือว่าผลประกอบการไตรมาสนี้ไม่ได้น้อยหน้าเลย”

ไมเคิล เซย์เลอร์ยังใช้เวทีประกาศผลประกอบการ เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐกำหนด *แนวทางที่ชัดเจนในการจำแนกสินทรัพย์ดิจิทัล* และเร่งจัดทำมาตรฐานสำหรับการ ‘โทเคนไนซ์’ สินทรัพย์อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เทเธอร์ก็ประกาศกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2025 อยู่ที่ 4,900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.81 ล้านล้านวอน) เพิ่มขึ้นถึง 277% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เทเธอร์มีรายได้สะสมรวม 5,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.92 ล้านล้านวอน) โดยในจำนวนนี้ 3,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.31 ล้านล้านวอน) มาจากแหล่งรายได้ถาวร ส่วนอีก 2,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.61 ล้านล้านวอน) มาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทองคำและบิตคอยน์ที่ถือไว้

ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน ระบุว่าบริษัทมีสินทรัพย์ค้ำประกันเหรียญ USDT รวมมูลค่า 162,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 225.9 ล้านล้านวอน) สำหรับ USDT ที่ออกหมุนเวียนแล้ว 157,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 218.4 ล้านล้านวอน) ซึ่งคิดเป็น *ทุนสำรองส่วนเกินกว่า 5,400 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 7.51 ล้านล้านวอน) สะท้อนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งและอัตราสภาพคล่องเกิน 100% ซึ่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นจากตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

*ความคิดเห็น*: การเปิดเผยผลประกอบการของสองบริษัทนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนถึงการฟื้นตัวของตลาดบิตคอยน์ และชี้ให้เห็นว่าองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่สามารถแปลงภาวะตลาดให้เป็นผลกำไรเชิงกลยุทธ์ได้จริง นอกจากนี้ยังเพิ่มแรงสนับสนุนต่อ *โอกาสการลงทุนของสถาบันในสินทรัพย์ดิจิทัล* ซึ่งอาจกลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของตลาดในระยะข้างหน้า

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1