บิตคอยน์(BTC) อาจเข้าสู่ช่วงปลายของรอบตลาดกระทิง ตามการวิเคราะห์ล่าสุดที่ชี้ว่า ราคาสามารถพุ่งแตะระดับ *150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.83 ล้านบาท)* ภายในเดือนตุลาคมปีนี้ ท่ามกลางแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ และคริปโตที่ปรับตัวขึ้นพร้อมกัน การคาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจากการวิเคราะห์รูปแบบ ‘แฟรกทัล’ ของวัฏจักร *การครึ่งรางวัล (Halving)* ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ *คริปโตบูลเล็ต (CryptoBullet)* ชี้ว่า หลังการครึ่งรางวัลแต่ละครั้ง บิตคอยน์มักจะทำจุดสูงสุดใหม่ภายในระยะเวลา 518 ถึง 546 วัน โดยการครึ่งรางวัลล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2024 ซึ่งจากสถิติเดิมจึงอาจชี้ว่า การทำจุดสูงสุดรอบใหม่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ลักษณะซ้ำซากของรูปแบบนี้ในรอบก่อนหน้า ทำให้การคาดการณ์ครั้งนี้ได้รับความ *น่าเชื่อถือ* มากขึ้น
ความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหม่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากข้อมูลออนเชนบ่งชี้ว่า ความต้องการลงทุนในบิตคอยน์ยังแข็งแกร่ง ทั้งจำนวนกระเป๋าเงินใหม่ที่มีการเคลื่อนไหว การไหลเข้าของเงินทุน และปริมาณบิตคอยน์ที่ถูกนำออกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ล้วนเป็น *สัญญาณบวก* ต่อทิศทางราคาที่อาจยังไปได้ต่อ
อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจสนับสนุนการขึ้นของตลาด คือ ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เริ่มแสดง *สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน* โดยระบุว่า ต้องการผลักดันให้คริปโต รวมถึงบิตคอยน์ กลายเป็นกลไกนวัตกรรมใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งท่าทีนี้อาจเป็นแรงกระตุ้นเชิงบวกต่อกรอบกำกับดูแลและการนำคริปโตเข้าสู่ระบบสถาบันมากขึ้น
หากบิตคอยน์สามารถทยานขึ้นแตะระดับ *150,000 ดอลลาร์สหรัฐ* ได้จริงภายในเดือนตุลาคม จะส่งผลต่อกระแสเงินลงทุนและความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตโดยรวมในระดับที่ไม่อาจมองข้าม อย่างไรก็ตาม ด้วยความ *ผันผวนสูง* ของตลาดคริปโต นักลงทุนควรมีการประเมินความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วน และเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ในระยะสั้นและยาว
ความคิดเห็น 0