ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐกำลังสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อบิตคอยน์(BTC) โดยล่าสุดดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) พุ่งแตะระดับ 101.6 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดกำลังมุ่งหน้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บิตคอยน์และสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากฝั่งขายอย่างชัดเจน
บิตคอยน์กำลังพยายามประคองตัวอยู่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.3 ล้านบาท) โดยมีภาวะชะงักงันและการซื้อขายภายใต้แรงเฉื่อย ข้อมูลในอดีตชี้ว่าบิตคอยน์มักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับดัชนี DXY ซึ่งเมื่อค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูง นักลงทุนทั่วโลกมักโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์สหรัฐฯ ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดคริปโตโดยเฉพาะ *อัลต์คอยน์* ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
นักวิเคราะห์เทคนิคมองว่าภาพรวมตอนนี้ยังไม่สดใส ด้วยเหตุที่บิตคอยน์ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ ขณะที่ DXY กำลังพยายามฝ่าแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ หาก DXY พุ่งทะลุระดับ 102 และยืนได้อย่างมั่นคง ก็อาจเป็นสัญญาณ ‘กลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย’ ซึ่งจะเร่งแรงเทขายในตลาดคริปโต
นอกจากปัจจัยด้านราคาแล้ว สัญญาณจากตัวชี้วัดอื่น ๆ ก็เริ่มสะท้อนความกังวลมากขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายของบิตคอยน์ลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณของ *พลังซื้อที่เริ่มหมดลง* ขณะที่ RSI ยังคงอยู่ในโซน ‘ซื้อมากเกินไป’ หรือ Overbought ซึ่งแปลว่าราคามีแนวโน้มขาดแรงส่งขึ้น และอาจเกิดปรากฏการณ์ ‘พักฐาน’ ได้ทุกเมื่อ *ความคิดเห็น* นักวิเคราะห์เตือนว่า หากบิตคอยน์ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 120,000 ดอลลาร์ได้ อาจนำไปสู่ภาวะ ‘ย่อตัวลงอย่างรุนแรง’ และการยืนยันแนวโน้มขาลงในระยะสั้น
สุดท้าย ทิศทางของ DXY จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดของบิตคอยน์ในเวลานี้ หากดอลลาร์ยังคงแข็งค่า และภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ตลาดคริปโตอาจถอยกลับสู่ *ช่วงเวลาที่มืดมน* อีกครั้ง นักลงทุนจึงควรใช้ช่วงเวลานี้ในการทบทวนแผนจัดการความเสี่ยงและปกป้องพอร์ตการลงทุนจาก ความผันผวน ที่อาจรุนแรงยิ่งขึ้นในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0