ภายใต้กระแสการปรับตัวของสถาบันการเงินดั้งเดิมที่เริ่มนำ ‘สเตเบิลคอยน์’ มาใช้มากขึ้น คาร์ลอส เน็ตโต(Carlos Netto) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมาเทรา(Matera) บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยกลยุทธ์และมุมมองของธนาคารดั้งเดิมที่หันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีคริปโตมากขึ้น โดยมาเทราปัจจุบันให้บริการซอฟต์แวร์แก่ธนาคารมากกว่า 280 แห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ และยังมีพันธมิตรสำคัญกับผู้ออกเหรียญอย่างเซอร์เคิล(Circle) เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลผ่านเครือข่ายของยูเอสดีซี(USDC)
เน็ตโตชี้ว่า ‘สเตเบิลคอยน์กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าของธนาคารย้ายเงินไปยังแพลตฟอร์มคริปโต’ และเสริมว่ายอดเงินฝากที่ไหลออกไปยังแพลตฟอร์มเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อฐานลูกค้าของธนาคารอย่างชัดเจน ทำให้ธนาคารหลายแห่งเริ่มหันมาพิจารณาการออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง และการพัฒนาระบบฝากถอนที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง ซึ่งครอบคลุมถึงการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล การชำระเงินแบบทันที และการใช้เครือข่ายแบบกระจายศูนย์ในการประมวลผลธุรกรรม
ในทางปฏิบัติ มาเทราได้จัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว โดยเฉพาะผ่านการรวมระบบกับเซอร์เคิลและการใช้ USDC เพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถใช้งานสเตเบิลคอยน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างบราซิล ซึ่งมีธนาคารจำนวนมากนำระบบนี้ไปใช้แล้ว และบางแห่งถึงขั้นสามารถทำธุรกรรมกับแพลตฟอร์มคริปโตมากกว่า 50 แห่งได้พร้อมกัน
แม้สถาบันการเงินเหล่านี้จะมีท่าทีค่อนข้างระมัดระวัง แต่เน็ตโตย้ำว่า ‘การนำสเตเบิลคอยน์มาใช้ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดของธนาคาร’ นอกจากนี้ เซอร์เคิลยังได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนสถาบันด้วยโครงสร้างเงินสำรองที่เข้มงวด และแนวทางที่เป็นมิตรต่อกฎระเบียบ ซึ่งเข้าเสริมทิศทางเดียวกับการพัฒนาเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC), เงินฝากแบบโทเคน และระบบชำระเงินที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างเร่งให้ธนาคารเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลเร็วขึ้น
ในอนาคต มาเทราตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนทั้งในด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ เพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถออกสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง หรือร่วมมือกับแพลตฟอร์มอื่นในการพัฒนา ‘ระบบการเงินแบบออนเชน (on-chain)’ ที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความพยายามเหล่านี้กำลังกลายเป็นแนวทางสำคัญในการเสริมสมดุลระหว่างกฎระเบียบและเทคโนโลยี ภายในภาคการเงินที่เคยลังเลต่อการเปลี่ยนแปลงในอดีต
ความคิดเห็น 0