Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ธนาคารสหรัฐฯ ขยับเข้าสู่โลกคริปโต: กว่า 50% เตรียมเปิดบริการบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)

ธนาคารสหรัฐฯ ขยับเข้าสู่โลกคริปโต: กว่า 50% เตรียมเปิดบริการบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) / Tokenpost

สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เริ่มหันมาให้ความสนใจใน *บิตคอยน์(BTC)* และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ อย่างจริงจัง หลังจากบทบาทในอดีตที่เน้นเพียงการเฝ้าติดตาม ล่าสุด รายงานอัปเดตระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่ 25 แห่ง มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่กำลังพิจารณาแผนการนำคริปโตมาใช้ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการให้บริการแบบจำกัดผ่านลูกค้าระดับไฮเน็ตเวิร์ธหรือลูกค้าด้านบริหารความมั่งคั่ง แม้การเปิดรับยังอยู่ในวงจำกัด แต่แนวโน้ม ‘การผลักดันสู่มาตรฐาน’ กำลังก่อตัวชัดขึ้น

การเปลี่ยนแปลงเริ่มปรากฏชัดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เช่น มอร์แกนสแตนลีย์(Stanley) อยู่ระหว่างพิจารณาให้กลุ่มที่ปรึกษากว่า 15,000 รายแนะนำ *กองทุน ETF บิตคอยน์* ให้กับลูกค้าพร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยเพื่อรองรับบริการ ขณะที่ชาร์ลส์ชวาบ(Charles Schwab) เตรียมเปิดให้ลูกค้าซื้อขาย *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม(ETH)* พร้อมสร้างระบบสำหรับติดตามสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ส่วนพีเอ็นซี(PNC) ได้จัดตั้งความร่วมมือกับ *คอยน์เบส(Coinbase)* เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อขายคริปโตโดยตรงผ่านบัญชีธนาคาร โดยไม่ต้องใช้แพลตฟอร์มแยกต่างหาก

ด้านบริการ *เก็บรักษาสินทรัพย์(Custody)* และ *การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน(Tokenization)* หลายธนาคารก็เปิดตัวบริการอย่างต่อเนื่อง เช่น สเตทสตรีท(State Street) ซึ่งกำลังพัฒนาเหรียญที่มีเสถียรภาพและผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบโทเคน พร้อมวางแผนทดลองนำพันธบัตรและกองทุนตลาดเงินมาแปลงเป็นโทเคน ขณะเดียวกัน บีเอ็นวายเมลลอน(BNY Mellon) ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบในเอกสารกองทุน ETF และปัจจุบันกลายเป็นผู้จัดการทุนสำรองของสเตเบิลคอยน์ RLUSD ที่ออกโดย *ริปเปิล(XRP)* ส่วนซิตี้แบงก์(Citi) ก็เร่งทดสอบการใช้บล็อกเชน *โซลานา(SOL)* สำหรับบริการการเงินในอนาคต

ธนาคารที่ขยับตัวเร็วที่สุดในปี 2025 คือ เจพีมอร์แกน(JPมอร์แกน) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่แปลงเป็นโทเคนและทดลองใช้ระบบโอนเงินดอลลาร์แบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่าย *เบส(Base)* นอกจากนี้ เจมี่ ไดมอน ซีอีโอ ยังออกมาเผยแผนทดลองระบบชำระเงินผ่านสเตเบิลคอยน์ แม้ไดมอนจะยังไม่เปลี่ยนท่าทีวิจารณ์คริปโตอย่างสิ้นเชิง แต่บริการที่เปิดใช้งานจริงสะท้อนความตั้งใจอย่างเด่นชัด โดยล่าสุด เจพีมอร์แกนได้เปิดให้ลูกค้าเชื่อมบัญชีกับ *คอยน์เบส* และซื้อคริปโตผ่านพอร์ทัลของธนาคารได้โดยตรง

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของธนาคารยังคงรอบคอบและเน้นที่ลูกค้าระดับสูง แต่การขยายบริการ ETF การเชื่อมต่อกับภาคเอกชน การลงทุนในระบบดูแลจัดการ และการทดลองโทเคนล้วนบ่งชี้ว่า *ธนาคารดั้งเดิมกำลังเปิดประตูสู่โลกคริปโตอย่างเป็นรูปธรรม* ความคิดเห็นจากตลาดระบุว่า "แม้ยังไม่ถึงขั้นท่วมท้น แต่แนวโน้มชัดเจนว่าน้ำเริ่มไหลแล้ว"

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายคาดว่า ทิศทางนี้อาจนำไปสู่การไหลเข้าของเม็ดเงินสถาบันนับแสนล้านบาท โดยเฉพาะหากโครงสร้างรองรับถูกผลักดันในระดับนโยบาย เช่น กรณีคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ให้เปิดทางให้กองทุนเกษียณอายุแบบ 401(k) สามารถลงทุนใน *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม* ซึ่งมีรายงานประเมินว่าหากเกิดขึ้นจริง อาจรองรับเงินสถาบันสูงถึง 1.7 แสนล้านบาท (ราว 122 พันล้านดอลลาร์)

แนวโน้มล่าสุดจึงสะท้อนว่า แวดวงธนาคารไม่เพียงแค่ติดตามคริปโตอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่ ‘ช่วงเตรียมความพร้อม’ และหากแรงสนับสนุนจากนโยบายและเทคโนโลยีดำเนินต่อไป ปี 2025 อาจกลายเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนของการเข้าสู่ระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลของโลกการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเต็มตัว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1