ราคาไฮเปอร์ลิควิด(HYPE) ฟื้นแรงแตะ 47 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดทะลุ 100 ดอลลาร์ในไม่ช้า

โทเคนไฮเปอร์ลิควิด(HYPE) กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังราคาพุ่งแตะระดับใกล้ 50 ดอลลาร์ (ประมาณ 69,500 บาท) โดยหลังจากที่ราคาเคยร่วงลงแรงช่วงต้นเดือนสิงหาคม จนแตะระดับ 34–35 ดอลลาร์ (ประมาณ 47,300–48,700 บาท) ล่าสุด HYPE ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขยับขึ้นมาที่ 47 ดอลลาร์ (ประมาณ 65,400 บาท)

ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ตลาด ความแข็งแกร่งของ ‘แรงซื้อในตลาดสปอต’ และโปรแกรม ‘ไบแบ็คที่มีเสถียรภาพ’ ซึ่งอ้างอิงจากรายได้ค่าธรรมเนียมเครือข่าย เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาขึ้น

นักวิเคราะห์รายหนึ่งชื่อ แมคเคนนา เผยผ่าน X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ว่า “แรงซื้อในตลาดสปอตเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการพุ่งขึ้นของ HYPE และด้วยสัดส่วน AF ที่พุ่งเกิน 5% บ่งชี้ว่าความกดดันฝั่งขายได้ถูกดูดซับไปมากแล้ว” พร้อมกล่าวเสริมว่าราคาบริเวณ 50 ดอลลาร์ อาจมี ‘กำแพงซัพพลาย’ แต่ไบแบ็คที่มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์ต่อวัน (ประมาณ 69.5 ล้านบาท) จะสามารถรองรับได้

บรรยากาศในตลาดอนุพันธ์ก็ไม่ต่างกัน โดยจากข้อมูลของ Coinglass พบว่า ‘โอเพนอินเทอเรสต์’ (Open Interest) เพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งสะท้อนการคาดหวังว่าราคาจะสามารถทะลุแนวต้าน 50 ดอลลาร์ได้

ในด้านปริมาณการซื้อขาย HYPE ก็ยังคงแสดง ‘สัญญาณเชิงบวก’ โดยมียอดซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้น 19% แตะ 2.59 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) ด้วยสภาพแวดล้อมที่ ‘ฟันดิ้งเรต’ ของตลาดล่วงหน้ายังคงอยู่ในระดับเป็นกลาง แสดงให้เห็นว่าการพุ่งขึ้นของราคาไม่ใช่ผลจากการใช้เลเวอเรจมากเกินไป แต่เป็น ‘อุปสงค์ที่แท้จริง’ จากตลาดสปอต

กิจกรรมบนเครือข่ายก็น่าสนใจไม่แพ้กัน นักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า ‘Crypto Aman’ ระบุว่า ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โครงการไฮเปอร์ลิควิดทำรายได้ค่าธรรมเนียมจากเครือข่ายได้มากที่สุดในภาคบล็อกเชน โดยบางส่วนของรายได้นี้ถูกนำไป ‘ไบแบ็ค HYPE’ ส่งผลให้เกิด ‘แรงซื้อจริง’ ซึ่งเป็นพื้นฐานของความแข็งแกร่งในระยะยาว

ขณะที่นักวิเคราะห์อีกคนชื่อ Rand มองว่า หากโมเมนตัมปัจจุบันยังคงอยู่ HYPE อาจแตะระดับ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 139,000 บาท) ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยอธิบายว่า หากราคาทะลุ 50 ดอลลาร์ จะเข้าสู่ “เขตไม่มีแรงต้าน” และมีโอกาสทำ ‘นิวไฮ’ ได้ไม่ยาก

การฟื้นตัวของไฮเปอร์ลิควิดครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่แรงดีดในระยะสั้นเท่านั้น แต่กลับสะท้อนถึงแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่แข็งแรง ทั้งจากกระแสเงินที่ไหลเข้า ความเคลื่อนไหวของเครือข่าย และแรงซื้อสะสม ส่งผลให้ HYPE กลายเป็นหนึ่งในโทเคนที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้