เหรียญคนดัง YZY และ LIBRA ส่อปั่นราคา! พบเทรดวงในฟันกำไรกว่า 319 ล้านบาท

โปรเจกต์เหรียญมีม ‘YZY’ และ ‘LIBRA’ ที่ขับเคลื่อนโดยคนดังในสหรัฐฯ กำลังสร้างแรงสะเทือนในตลาดคริปโต หลังมีข้อมูลบ่งชี้ถึง *พฤติกรรมการเทรดภายใน* ระหว่างขั้นตอนการเปิดตัวโทเคน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลบล็อกเชนซึ่งใช้ชื่อว่า Dethective เปิดเผยว่า พบกระเป๋าเงินดิจิทัลจำนวนหนึ่งซื้อโทเคนจำนวนมากในราคาต่ำ และขายทำกำไรระดับหลายพันล้านวอนภายในเวลาอันสั้น

กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือโปรเจกต์ YZY ของแรปเปอร์ชื่อดัง *คานเย เวสต์(Kanye West)* โดยกระเป๋าเดียวสามารถซื้อโทเคนในราคาชิ้นละ 0.20 ดอลลาร์ หรือราว *280 บาท* รวมเป็นมูลค่า *ประมาณ 3.4 ล้านบาท* จากนั้นเพียง 8 นาที ก็ขายต่อทำกำไรได้เกือบ *14 ล้านบาท* ผลกำไรทั้งหมดถูกย้ายเข้าสู่กระเป๋า ‘ทุนสำรอง’ ซึ่งมีกลิ่นทุจริตจากโปรเจกต์ LIBRA เมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านั้น

ในช่วงเปิดตัว LIBRA พบว่ากระเป๋าสำคัญ 2 ใบ ได้กำไรกว่า *125 ล้านบาท* และ *160 ล้านบาท* ตามลำดับ ท่ามกลางข้อสงสัยว่ากระเป๋าเหล่านี้อาจได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโทเคนก่อนการขายสู่สาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการกระจายโทเคนอาจถูกควบคุมโดย ‘วงใน’ ข้อมูลจาก Dethective ชี้ว่า กระเป๋าเหล่านี้กวาดเงินไปรวมกันกว่า *319 ล้านบาท* โดยส่วนหนึ่งถูกโอนเข้าสู่แพลตฟอร์มหลักอย่าง *ไบแนนซ์(Binance)* และ *คามิโน(Camino)*

Dethective ยังชี้ให้เห็นถึง *รูปแบบพฤติกรรมที่ผิดปกติ* ของกระเป๋าเหล่านี้ โดยไม่ทำการเทรดเหรียญอื่นใดนอกจาก YZY และ LIBRA เท่านั้น และเข้าเทรดเฉพาะช่วงเปิดตัวด้วยเงินก้อนใหญ่แบบแม่นยำ เขาระบุว่า “การเข้าจังหวะและจัดสรรเม็ดเงินเช่นนี้ *แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีข้อมูลล่วงหน้า*”

มีข้อสันนิษฐานว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง LIBRA อย่าง *เฮย์เดน เดวีส์(Hayden Davis)* อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับกระเป๋าที่น่าสงสัยเหล่านี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

อีกหนึ่งประเด็นที่สร้างความกังวลคือ *ผลขาดทุนของนักลงทุนทั่วไป* โดยข้อมูลจากนักวิเคราะห์ Defioasis พบว่า จากกระเป๋าที่เทรดเหรียญ YZY ทั้งหมด 56,050 ใบ มีมากกว่า *60% ที่ขาดทุน* โดยมี 30,884 กระเป๋าที่มีทั้งการซื้อและขาย แต่ในจำนวนนั้น *ราว 62% ลงเอยด้วยการขาดทุน* โดยประมาณครึ่งหนึ่งขาดทุนไม่เกิน *ประมาณ 69,000 บาท* และมีกรณีที่นักลงทุนรายหนึ่งสูญเงินไปกว่า *14 ล้านบาท*

นอกจากนี้ การวิเคราะห์พบว่ามีบางกระเป๋าที่ซื้อหรือขายแค่ครั้งเดียว สร้างข้อสงสัยว่าอาจเป็นกระเป๋าปลอมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ *ปั่นปริมาณซื้อขาย* ขณะเดียวกันในกลุ่มที่ได้กำไรมากที่สุด 406 ใบ พบว่าหลายรายเชื่อมโยงกับบุคคลภายในของโปรเจกต์

Dethective แสดงความคิดเห็นว่า โปรเจกต์เหรียญที่ขับเคลื่อนโดยคนดัง หรือที่เรียกว่า *‘เหรียญคนดัง’ (Celebrity Coin)* กำลังกลายเป็น *เครื่องมือดูดเงินจากนักลงทุนทั่วไปไปสู่กลุ่มวงใน* โดยเขากล่าวว่า “แม้จะดูเหมือนเปิดโอกาสให้ทุกคน แต่ความจริงคือ ระบบนี้ถูกออกแบบมาให้เอื้อประโยชน์ต่อคนส่วนน้อยเท่านั้น”

เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความนิยมของ *เหรียญมีม* อาจสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของตลาดคริปโต และความน่าเชื่อถือของกลไก ‘การซื้อขายแบบเปิด’ อาจถูกตั้งคำถาม หากพฤติกรรมของวงในยังเกิดซ้ำโดยไม่ได้รับการควบคุมอย่างจริงจังในอนาคต