ตำรวจไทยจับกุมชายชาวเกาหลีใต้วัย 33 ปี นามว่า ‘ฮานาโม’ ฐานมีส่วนพัวพันการฟอกเงินด้วยคริปโต มูลค่ากว่า *50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 695 พันล้านวอน)* โดยกระบวนการฉ้อโกงนี้ใช้วิธี *แปลงคริปโตเป็นทองคำ* เพื่อลบล้างร่องรอยการทำธุรกรรมและหลีกเลี่ยงการจับกุม
โดยเมื่อวันที่ 15 ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของไทย (TCSD) จับกุมตัว ‘ฮานาโม’ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังได้รับหมายจับจากศาลกลางกรุงโซล จากรายงานของ The Nation ระบุว่า ฮานาโมกำลังจะถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 4 กระทง ได้แก่ *ฉ้อโกงทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์, อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์, ฟอกเงิน,* และ *สมคบคิดในองค์การอาชญากรรม*
คดีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการหลอกลงทุนผ่านคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยช่วงต้นปี 2024 โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึง *30–50%* แก่นักลงทุน กระบวนการในช่วงแรกผู้เสียหายได้รับเงินบางส่วนจริงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่เมื่อยอดเงินลงทุนในระบบสูงขึ้น สมาชิกกลุ่มกลับอ้าง ‘ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข’ และระงับการถอนเงิน
TCSD ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้เสียหายหลายสิบรายเข้าแจ้งความ โดยการสืบสวนล่าสุดได้นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด *10 ราย* ซึ่งในจำนวนนี้ *5 คน* ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการเปลี่ยนคริปโตเป็นทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และอีก *5 คน* ต้องสงสัยว่าจัดหา ‘บัญชีม้า’ สำหรับฟอกเงินผ่านระบบธนาคาร
ความคิดเห็น: การฟอกเงินผ่านการเปลี่ยนคริปโตเป็นทรัพย์สินจริง เช่นทองคำ กำลังกลายเป็นแนวโน้มใหม่ที่ใช้ในอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งนี้ ทางการไทยกำลังเพิ่มมาตรการควบคุม *แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและร้านค้าทองคำ* อย่างเข้มงวดเพื่อสกัดกั้นช่องโหว่ในระบบการเงินจากคริปโต โดยกรณีของฮานาโม ถูกมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของ *‘การฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล’* ซึ่งเน้นแปลงสินทรัพย์เสมือนเป็นของจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และเป็นเหตุผลให้ทางการไทยเตรียม *ขยายความร่วมมือด้านการสืบสวนระหว่างประเทศ* อย่างจริงจังในปีนี้
ความคิดเห็น 0