อีเธอเรียม(ETH) พุ่ง 130% ใน 2 เดือน นักลงทุนแห่เทขาย-แต่ครอบครัวทรัมป์ยังสะสมหนัก

อีเธอเรียม(ETH) พุ่งขึ้นกว่า 130% ภายในช่วงเวลาเพียงสองเดือน ทำให้นักลงทุนต่างถกเถียงกันอย่างร้อนแรงว่า ‘ถึงเวลาขายทำกำไรหรือยัง?’ ขณะที่อีกฝ่ายยังคงเดินหน้าเข้าซื้อ โดยเชื่อมั่นในแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาในอนาคต โดยสิ่งที่สร้างความน่าสนใจในตลาดเพิ่มเติม คือรายงานว่าครอบครัวของทรัมป์ยังคงทยอยซื้ออีเธอเรียมในระหว่างที่ราคากำลังพุ่ง

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม อีเธอเรียมพุ่งแตะระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 4,900 ดอลลาร์ (ราว 6.8 ล้านบาท) จากระดับต่ำกว่า 2,200 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เท่ากับว่าราคาพุ่งขึ้นถึง 130% ในช่วงเวลาเพียงสองเดือน ปัจจัยผลักดันหลักคือการไหลเข้าของเม็ดเงินจากสถาบัน, กระแสความสนใจในอีเธอเรียม ETF ตลอดจนการเข้าซื้อจำนวนมากของบริษัทบล็อกเชนขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาคือ ‘นี่คือจุดสูงสุดแล้วหรือยัง?’

นักเทรดคริปโตชื่อดัง ‘Doctor Profit’ แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) ว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาทองของการทำกำไร” พร้อมแนะนำให้นักลงทุนขาย ETH บางส่วน ทั้งนี้ บริษัทด้านการเงินสินทรัพย์ดิจิทัล แมทริกซ์พอร์ต(Matrixport) ก็ได้เคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกัน โดยโอนอีเธอเรียมจำนวน 95,873 เหรียญ (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 452 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.2 พันล้านบาท) ไปยังแพลตฟอร์ม Binance และ OKX ซึ่งบ่งชี้แนวโน้มการขายที่เข้มข้นยิ่งขึ้นจากฝั่งสถาบัน

ในอีกด้านหนึ่ง นักลงทุนรายใหญ่ระดับ ‘OG’ ที่เป็นที่รู้จักในวงการคริปโต กลับเดินเกมสวนทาง โดยขายบิตคอยน์(BTC) ที่ถืออยู่ เพื่อนำไปลงทุนใหม่ในอีเธอเรียมผ่านตลาด Hyperliquid เป็นจำนวนมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.1 พันล้านบาท) โดยผู้ใช้นี้ปัจจุบันถือครอง ETH อยู่ 135,265 เหรียญ ที่ราคาเฉลี่ย 4,295 ดอลลาร์ คิดเป็นกำไรที่ยังไม่ถูกขายออกมากว่า 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.39 พันล้านบาท)

ที่น่าสนใจอีกประเด็นคือการที่ครอบครัวของทรัมป์ยังคงซื้อสะสม ETH อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการปรับขึ้นของราคา ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ธุรกรรมออนเชน Lookonchain ระบุว่า ‘เวิลด์ลิเบอร์ตี้ (World Liberty)’ ซึ่งก่อตั้งโดยครอบครัวทรัมป์ ได้ใช้ USDC จำนวน 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 695 ล้านบาท) เข้าซื้อ ETH เพิ่มอีก 1,076 เหรียญ แม้ว่าราคาตลาดจะอยู่ในระดับสูง

ท้ายที่สุดแล้ว การจะตัดสินใจขายหรือถือ ETH ต่อไป ขึ้นอยู่กับ ‘แนวโน้มตลาด’, ‘ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้’ และ ‘กลยุทธ์การลงทุน’ ของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่า ยิ่งราคาสูง การพิจารณากระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนอย่างรอบคอบนั้นยิ่งเป็นเรื่องจำเป็น หากต้องการควบคุมผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ