แม้ว่า *อีเธอเรียม(ETH)* จะเข้าสู่ช่วงปรับฐานราคาล่าสุด แต่เหล่านักลงทุนรายใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า ‘วาฬ’ กลับมองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อครั้งใหญ่แทนที่จะถอยออกจากตลาด ตามรายงานของสื่อต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ กระเป๋าเงินที่ถือครอง *ETH* ระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 เหรียญ ได้เข้าซื้อเพิ่มรวมกว่า 400,000 *ETH* ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.36 หมื่นล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนที่คิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด
แนวโน้มการเข้าซื้อครั้งใหญ่นี้สะท้อนถึง *สัญญาณความเชื่อมั่นที่เริ่มฟื้นตัวในตลาด* เนื่องจากเมื่ออุปทานลดลง ความต้องการก็อาจผลักดันให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ความเคลื่อนไหวของกลุ่มวาฬเหล่านี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วไป อาจนำไปสู่การเข้าซื้อต่อเนื่องในระยะต่อไป
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจคือ *ปริมาณเงินฝากสุทธิที่ไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี* บ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังถอนสินทรัพย์ *ETH* ออกจากแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์เพื่อไปเก็บไว้ในกระเป๋าส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงแรงเทขายระยะสั้นที่เริ่มลดน้อยลง พร้อมทั้งบ่งบอกว่ากลยุทธ์ ‘ถือระยะยาว’ เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง
ในด้านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ นักวิเคราะห์คริปโตหลายรายเชื่อว่า *แรงปรับฐานในปัจจุบันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอบขาขึ้นครั้งใหม่* โดยมีการคาดการณ์ว่า *ETH* อาจพุ่งทะลุระดับ 6,000 ดอลลาร์ หรือราว 8.34 แสนบาทได้ในระยะสั้น *Lucky* นักวิเคราะห์ที่มีผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์เดิม) ถึง 2.2 ล้านราย ให้ความเห็นว่า ขณะนี้นักลงทุนสถาบันกำลังเก็บสะสม *ETH* อย่างจริงจัง และการยอมรับขององค์กรต่างๆ กำลังเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน ทอม ลี(Tom Lee) ประธานบริษัท บิทไมน์ อีเมอร์ชัน เทคโนโลยี(Bitmine Immersion Technologies) ให้ความเห็นว่า *การปรับฐานในครั้งนี้ถือเป็น ‘การปรับฐานที่ดีต่อสุขภาพ’* โดยแม้ในระยะสั้น *ETH* อาจถอยลงต่ำกว่า 4,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.7 แสนบาท) แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวก เขายังเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก่อนว่า *ETH* อาจพุ่งไปถึง 60,000 ดอลลาร์ได้
สรุปแล้ว แม้ตลาด *ETH* จะอยู่ในช่วงราคาปรับตัวลง แต่การที่วาฬเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการถอนสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์ม และความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับแสดงให้เห็นถึง *แรงสนับสนุนเชิงบวกที่ยังคงอยู่ในตลาด* ซึ่งอาจเป็นสัญญาณแฝงของการฟื้นตัวที่กำลังใกล้เข้ามา
ความคิดเห็น 0