อีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญแนวต้านในระยะสั้นที่ระดับราคา 4,400 ดอลลาร์(ประมาณ 6.11 ล้านบาท) ขณะที่ข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเริ่มแสดงความ‘ขัดแย้ง’กัน ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มของตลาดคริปโตในช่วงสั้น หลังจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากตลาดหมีอันยาวนาน ราคาของอีเธอเรียมอยู่ที่ราว 4,200 ดอลลาร์(ประมาณ 5.83 ล้านบาท) ส่งผลให้นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดว่าอีเธอเรียมจะสามารถทะลุแนวต้านนี้ได้หรือไม่
ตามรายงานล่าสุดของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่างคริปโตควนท์(CryptoQuant) เมื่อวันที่ 24 อีเธอเรียมยังคงอยู่ในโซนของ‘แนวโน้มขาขึ้น’จากมุมมองของตัวชี้วัดระยะยาว โดยเฉพาะค่า MACD และปริมาณการซื้อที่ยังคงแสดงสัญญาณบวก นอกจากนี้ อัตราส่วนการถือครองอีเธอเรียมบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (ESR) ซึ่งสะท้อนความพร้อมในการขายของตลาดโดยรวม ยังคงลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2022 ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 0.16 แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนจำนวนมากยังคงถอน ETH ออกจากแพลตฟอร์ม ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายกำลังลดลงในภาพรวมระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากไบแนนซ์(Binance) กลับแสดงสัญญาณตรงกันข้าม ESR บนแพลตฟอร์มไบแนนซ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2025 และล่าสุดแตะระดับ 0.04 ถือเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนบางส่วนเริ่มย้าย ETH กลับเข้ามาในตลาด ซึ่งอาจสะท้อนกลยุทธ์การขายในระยะสั้นหรือการเตรียมสภาพคล่องสำหรับทำกำไร
ปริมาณสุทธิที่ไหลเข้าสู่ไบแนนซ์ (Netflow) ยังเป็นบวก ซึ่งหมายความว่ามี ETH เข้ามาสะสมบนแพลตฟอร์มมากขึ้น อาจเชื่อมโยงกับการ *ทำกำไร* ล่วงหน้าก่อนที่ราคาจะทดสอบแนวต้าน 4,400 ดอลลาร์ หากตลาดมาถึงจุดนี้และแรงขายเพิ่มขึ้น ETH อาจปรับฐานลงมายังช่วง 3,950–4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.49–5.56 ล้านบาท)
ในทางกลับกัน หากแรงกดดันจากการไหลเข้าอ่อนตัวลง หรือ ESR เริ่มมีเสถียรภาพ อีเธอเรียมก็มีโอกาสทะยานผ่าน 4,400 ดอลลาร์ และพุ่งสู่ระดับ 4,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.67 ล้านบาท) โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่า ราคามีสิทธิ์กลับไปทดสอบจุดสูงสุดในอดีตอีกครั้ง
ด้านจิตวิทยานักลงทุน ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์โซเชียลมีเดียอย่างซานติเมนต์(Santiment) ระบุว่า คำที่มีน้ำเสียงเชิงบวกเช่น ‘buying’ หรือ ‘bullish’ ถูกใช้มากกว่าคำในเชิงลบถึงสองเท่า ซึ่งชี้ถึงความคาดหวังที่เพิ่มสูงของนักลงทุนรายย่อย ถึงแม้จะมี ‘FOMO’ หรือความกลัวการพลาดโอกาสสูงขึ้นก็ตาม ซึ่งอาจมีผลให้โมเมนตัมราคาในระยะสั้นเริ่มชะลอตัว
จากฝั่งนักลงทุนสถาบัน ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม นักลงทุนสถาบันได้เข้าซื้อ ETH มากกว่า 1.035 ล้านเหรียญ ในราคากลางประมาณ 3,546 ดอลลาร์(ประมาณ 4.93 ล้านบาท) รวมมูลค่าสูงถึง 4.39 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.08 แสนล้านบาท) ความเคลื่อนไหวนี้ *สอดคล้องกับการฟื้นตัวของราคาที่เพิ่มขึ้นกว่า 45%* ซึ่งแสดงถึงบทบาทสำคัญของสถาบันต่อแรงซื้อในตลาด
ขณะเดียวกัน ปริมาณการ‘ออกใหม่’ของ ETH ก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2022 ล่าสุด ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2025 มีอีเธอเรียมหมุนเวียนในระบบกว่า 121 ล้านเหรียญ ปัจจัยนี้ทำให้บทบาทของ ETH ในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่าเผชิญความท้าทายในอีกมิติ
โดยสรุป อีเธอเรียมยังคงเคลื่อนไหวท่ามกลางสมการของ ‘ขาขึ้นระยะยาว’ กับ ‘แรงขายระยะสั้น’ การตัดสินใจลงทุนในช่วงนี้จำเป็นต้องติดตามความเปลี่ยนแปลงของ ESR และการไหลเข้าออกของ ETH บนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวชี้วัดเหล่านี้จะกลายเป็น *เข็มทิศสำคัญ* ของการเคลื่อนไหวในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0