แฮชเรทบิตคอยน์(BTC) ทะยานแตะ 929 EH/s สูงสุดในประวัติการณ์ สะท้อนความเชื่อมั่นนักขุดทั่วโลก

เครือข่ายของบิตคอยน์(BTC) ได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง โดยมี ‘แฮชเรท’ หรือพลังประมวลผลรวมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *929 เอกซะแฮชต่อวินาที (EH/s)* ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงของเครือข่ายและการมีส่วนร่วมของนักขุดที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตามการเปิดเผยของ Maartunn นักวิเคราะห์จากชุมชนของคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ให้เห็นว่าบิตคอยน์ยังคงรักษาพื้นฐานของเครือข่ายได้อย่างแข็งแกร่ง

แฮชเรทถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงให้เห็นว่ามีพลังประมวลผลเท่าใดที่ถูกใช้ในเครือข่ายของบิตคอยน์ โดยตัวเลขที่สูงขึ้นหมายถึงความปลอดภัยของบล็อกเชนที่มากยิ่งขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ 51% สิ่งนี้สะท้อนว่านักขุดจากทั่วโลกร่วมสนับสนุนเครือข่ายในระดับสูง ซึ่ง *ความคิดเห็น* หนุนต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว และอาจช่วยรักษาระดับราคาของเหรียญได้ในภาวะตลาดที่มีแรงกดดัน

จำนวนบิตคอยน์ที่ถูกขุดแล้วจนถึงขณะนี้อยู่ที่ *19.913 ล้าน BTC* หรือราว *94.8%* ของจำนวนจำกัดทั้งระบบที่ 21 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ *1.086 ล้าน BTC* ยังอยู่ในการขุดซึ่งจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความยากและรอบของการ ‘ฮาฟวิ่ง’ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับราคาบิตคอยน์ล่าสุด เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ *110,640 ดอลลาร์* หรือราว *14.76 ล้านบาท* ซึ่งลดลงกว่า *2%* ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา บรรยากาศของตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินตึงตัวอีกครั้ง ก่อนการประกาศตัวเลข *ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)* ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ

แนวรับสำคัญของบิตคอยน์ในขณะนี้ถูกประเมินไว้ในช่วง *107,000–108,900 ดอลลาร์* (ประมาณ *14.87–15.07 ล้านบาท*) หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับนี้ แนวรับถัดไปจะอยู่ในช่วง *93,000–95,000 ดอลลาร์* (ประมาณ *12.93–13.20 ล้านบาท*) ซึ่งแสดงถึงความเปราะบางของภาวะตลาดในระยะสั้น

จากข้อมูลของเว็บไซต์โคอินกลาส(Coinglass) มีการชำระบัญชีในตลาดคริปโตภายในวันเดียวสูงถึง *448 ล้านดอลลาร์* หรือกว่า *6,227 ล้านบาท* โดยส่วนใหญ่เป็นการชำระบัญชีออเดอร์แบบ Long position ซึ่ง *ความคิดเห็น* บ่งชี้ถึงอารมณ์ของนักลงทุนที่เริ่มระมัดระวังมากขึ้น

แม้บิตคอยน์จะมีสัญญาณพยายามฟื้นตัวในเชิงเทคนิค แต่ *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยังมองว่าสภาวะ ‘สภาพคล่องที่ไม่สมดุล’ ยังคงเป็นอุปสรรคหลัก ดังนั้น ความคาดหวังต่อการทำจุดสูงสุดใหม่อาจต้องถูกเลื่อนออกไป และมีแนวโน้มที่ราคาจะเคลื่อนไหวในช่วงพักตัวและสะสมพลังต่อไปในระยะกลาง