ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนการดึงดูดตลาด ‘สเตเบิลคอยน์’ ให้เข้ามาสู่สหรัฐฯ อย่างจริงจัง โดยเดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายคริปโตของทรัมป์ ระบุว่าสเตเบิลคอยน์จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมแนวคิดนำตลาดนี้ที่ปัจจุบันดำเนินการในต่างประเทศ กลับมาอยู่ภายในประเทศ
ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของสเตเบิลคอยน์อยู่ที่ประมาณ 227,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกว่า 97% เป็นเหรียญที่อิงกับดอลลาร์ โดยเฉพาะ ‘เทเธอร์(USDT)’ ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่า 60% ของตลาด แซคส์ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “พลังของสเตเบิลคอยน์คือการขยายอิทธิพลของดอลลาร์ในระดับสากล และคงสถานะนี้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัล” พร้อมเสริมว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้างความต้องการใหม่สำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวได้
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังลดขนาดแผนกบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ตามรายงานของเดอะนิวยอร์กไทมส์ SEC ได้โยกย้ายทนายความบางส่วนไปยังแผนกอื่น ซึ่งสะท้อนถึงการผ่อนคลายมาตรการกำกับดูแลคริปโต นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาความเป็นไปได้ในการ ‘ลดโทษย้อนหลัง’ สำหรับโทเค็นบางประเภท
หลังจากทรัมป์รับตำแหน่ง แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ได้ลาออกจากตำแหน่งประธาน SEC ทำให้ขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลกำลังอยู่ภายใต้การนำใหม่ เฮสเตอร์ เพียร์ซ คณะกรรมาธิการของ SEC กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “คณะทำงานด้านคริปโตที่จัดตั้งขึ้นโดยทำเนียบขาว จะสร้างสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ชัดเจนขึ้น” พร้อมเสริมว่ากำลังพิจารณาทบทวนแนวทางบังคับใช้กฎหมายเดิม รวมถึงการลดโทษย้อนหลังสำหรับบางโครงการ
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่าท่าทีที่เป็นมิตรต่อคริปโตของฝ่ายบริหารของทรัมป์ อาจส่งผลเชิงบวกต่อตลาดในอนาคต โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตภายในสหรัฐฯ
ความคิดเห็น 0