ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ได้อนุมัติการขยายพอร์ตของกองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีคริปโตของแนสแด็ก ซึ่งจัดการโดยบริษัท Hashdex สร้างหมุดหมายสำคัญเมื่อ *ริปเปิล(XRP)* และ *สเตลลาร์ลูเมนส์(XLM)* ได้รับการบรรจุเป็นสินทรัพย์ในกองทุน ETF ที่ผ่านการกำกับอย่างเป็นทางการของสหรัฐเป็นครั้งแรก เปิดทางให้กลุ่มอัลต์คอยน์ เช่น โซลานา(SOL), XRP และ XLM เข้าสู่ตลาด ETF อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแค่เพียง บิตคอยน์(BTC) และ อีเธอเรียม(ETH) ที่ครองพื้นที่หลักในกลุ่มกองทุนประเภทนี้
เมื่อวันที่ 24 คณะกรรมการ SEC ได้อนุมัติคำขอข้อกำหนดการจดทะเบียนทั่วไป (Generic Listing Standards) สำหรับกองทุนที่มีโครงสร้างเป็นสินทรัพย์ที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity-based trust shares) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ออกกองทุนสามารถจัดตั้ง ETF โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการอนุมัติแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละสินทรัพย์อีกต่อไป ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงถือเป็นการลดข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่เคยกีดกันอัลต์คอยน์ออกจากตลาด ETF แบบมีใบกำกับ
จากข้อมูลพอร์ตใหม่ของ Hashdex ETF ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ระบุว่า บิตคอยน์ยังคงครองส่วนแบ่งสูงที่สุดที่ 73.5% ตามมาด้วยอีเธอเรียมที่ 14.8% ในขณะที่ XRP ได้รับสัดส่วน 7.1%, โซลานา 4.2% และ XLM อีก 0.3% แสดงให้เห็นถึงทิศทางการกระจายความเสี่ยงที่เปิดรับสินทรัพย์หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมีการประเมินว่ากองทุนถือครอง XRP จำนวน 3.56 ล้านเหรียญ (ราว 14.8 ล้านบาท), โซลานา 29,383 เหรียญ (ราว 41.3 ล้านบาท) และ XLM อีก 1.32 ล้านเหรียญ (ราว 6.96 ล้านบาท)
เนท เจอราซี(Nate Geraci) ประธานบริษัทวิเคราะห์ ETF Store แสดงความคิดเห็นว่า “นี่ไม่ใช่แค่การปรับสัดส่วนของกองทุน แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้านโครงสร้างของตลาด ETF ดิจิทัลอย่างแท้จริง” เขายังกล่าวเสริมว่า การใช้ข้อกำหนดการจดทะเบียนทั่วไปจะทำให้การอนุมัติ ETF เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ตลาดตอบรับเชิงบวก โดยเฉพาะในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) กำลังเปลี่ยนท่าทีไปสู่การลดดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมามองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น การมาของ ETF คริปโตใหม่ในจังหวะนี้จึงอาจดึงดูดกระแสทุนได้มากขึ้น ขณะที่ ETF ที่อ้างอิงราคาสปอตของ XRP และโซลานายังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการยื่นเสนอ และมีโอกาสเปิดตัวทันภายในปีนี้
ด้วยการอนุมัติในครั้งนี้ *XRP และ XLM* จึงได้ยกระดับสถานะขึ้นเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดทุนที่มีการกำกับ ขนาบข้างร่วมกับบิตคอยน์และอีเธอเรียม ซึ่ง *ความคิดเห็น* ส่วนใหญ่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มิใช่เพียงการขยายโอกาสการลงทุน แต่ยังเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางมุมมองเชิงสถาบันที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม
ความคิดเห็น 0