ตลาดอนุพันธ์ของริปเปิล(XRP) กำลังร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากกลุ่ม CME ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าขนาดใหญ่แห่งชิคาโก ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดนี้ โดยสามารถแซงไบแนนซ์ขึ้นครองอันดับสองในด้าน *สัญญาเปิดค้าง(Open Interest)* ของ XRP ฟิวเจอร์ส ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันต่อผลิตภัณฑ์การเงินที่อิงจาก XRP
จากข้อมูลของ CoinGlass แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบัน CME มี *สัญญาเปิดค้าง XRP มูลค่า 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.76 ล้านล้านวอน)* ซึ่งมากกว่า ไบแนนซ์ ที่มีอยู่ที่ 1.22 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.69 ล้านล้านวอน) ส่วนอันดับหนึ่งยังคงเป็นของ Bitget ซึ่งมีมูลค่าที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.22 ล้านล้านวอน) ขณะเดียวกัน ปริมาณสัญญาฟิวเจอร์ส XRP ของ CME ก็พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 18.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 25.5 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงการขยายตัวของอิทธิพลในตลาด
‘สัญญาเปิดค้าง’ หมายถึงมูลค่ารวมของสัญญาซื้อขายที่ยังไม่หมดอายุหรือยังไม่ได้ชำระบัญชี ซึ่งมักใช้เป็นตัวบ่งชี้ระดับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบันในตลาด ก่อนหน้านี้ CME เปิดตัวตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) อย่างเป็นทางการ และขยายไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด *XRP กลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถแตะสัญญาเปิดค้างถึง 1 พันล้านดอลลาร์ได้รวดเร็วกว่าสินทรัพย์อื่นๆ* ในตลาด CME นับว่าสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
นักวิเคราะห์เชื่อว่าพัฒนาการนี้อาจเชื่อมโยงกับแนวโน้ม *เปิดตัวกองทุน ETF ของ XRP* โดยชี้ว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มนำผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ส XRP เข้าสู่พอร์ตเพื่อทดสอบกลยุทธ์ ซึ่งหากมีการอนุมัติ ETF ในอนาคต ก็อาจช่วยผลักดันให้เกิดความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา CME ได้เปิดตัว XRP ฟิวเจอร์สอย่างเป็นทางการ และเมื่อต้นเดือนนี้ก็ประกาศแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ออปชันสำหรับ โซลานา(SOL) และ XRP
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์คริปโตของ CME โดยรวม พุ่งทะลุ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 41.7 ล้านล้านวอน) เป็นครั้งแรกในเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดครั้งหนึ่งในหมู่ตลาดที่มีรากฐานจากการเงินดั้งเดิม *การเร่งขยายอำนาจของ CME ในตลาด XRP บ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันกำลังยกระดับการเข้ามามีส่วนร่วมในสินทรัพย์คริปโต* และมีแนวโน้มว่าจะเป็นแรงสนับสนุนเชิงบวกต่อราคาของ XRP ในระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะหากเกิดข่าวดีอย่างการอนุมัติ ETF ในอนาคต
ความคิดเห็น 0