ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญที่ 109,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดการไหลออกของเงินทุนจากกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนสถาบันที่เคยเป็นแกนนำเริ่มถอยห่างจากตลาด อย่างไรก็ตาม กองทุนบางรายการกลับยังสามารถรักษากระแสเงินทุนไว้ได้ แสดงให้เห็นว่าตลาดคริปโตไม่ใช่ทุกส่วนที่จะเผชิญกับภาวะซบเซา
เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐมีเงินไหลออกถึง 253.4 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว รวมยอดเงินไหลออกในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 480 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์ โดยราคาบิตคอยน์ตกลงไปแตะแนวรับ 109,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ แต่ยังไม่หลุดระดับต่ำสุดของต้นเดือนที่ 107,500 ดอลลาร์
ท่ามกลางสถานการณ์เงินทุนไหลออก กองทุน IBIT ของแบล็ครอก(IBIT) กลับดึงดูดเงินทุนใหม่ได้กว่า 78 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว แสดงถึง ‘ความเชื่อมั่น’ ที่เหนียวแน่นของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่กองทุนของบริษัทคู่แข่งอย่างฟิดลิตี้, บิตไวส์, 21แชร์สของ ARK, แฟรงคลิน, แวนเอค และเกรย์สเกล ต่างก็เผชิญกระแสการขายออกพร้อมกัน
กองทุน IBIT ยังได้เพิ่มการซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียว แบล็ครอกสะสมเพิ่มอีก 1,900 BTC ก่อนหน้านั้นมีการซื้อ 7,500 BTC, 9,100 BTC และ 3,750 BTC ตามลำดับ ‘การที่แบล็ครอกยังคงสะสม BTC ในช่วงตลาดขาลงนั้นถือว่าสะท้อนสัญญาณสำคัญ’
ในฝั่งของอีเธอเรียม(ETH) ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีเม็ดเงินไหลออกจาก ETF บนพื้นฐาน ETH มากถึง 251 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว และตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการไหลออกของเงินทุนจากกองทุนอีเธอเรียมรวมแล้วอยู่ที่ 547 ล้านดอลลาร์ หลังราคา ETH ปรับตัวลดลงเป็นเลขสองหลักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
‘แง่บวก’ ยังคงมีอยู่ในตลาด ETF สหรัฐ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เริ่มหารือกับผู้จัดตั้งกองทุนแวนเอคเกี่ยวกับแนวคิด ‘การแปลง ETF ให้เป็นโทเคน’ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างมากต่ออีเธอเรียม เนื่องจาก ETH ครองความได้เปรียบในฐานะแพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับการใช้เทคโนโลยีโทเคนที่มีสินทรัพย์จริงหนุนหลัง(RWA)
ETF รุ่นใหม่ยังคงเปิดตัวออกมาต่อเนื่อง โดย REX-ออสเปรย์ ได้ออกกองทุน ETF สำหรับการสเตค ETH ภายในสัปดาห์นี้ ในขณะที่บิตไวส์ได้ยื่นคำขอเปิด ETF สำหรับ ‘ไฮเปอร์ลิควิด’ (Hyperliquid) และแฮชเดกซ์ที่เพิ่งได้รับอนุมัติจาก SEC ก็เปิดตัวกองทุนบนดัชนีคริปโต ‘แนสแด็ก’
นอกจากนี้ แบล็ครอกยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘iShares Bitcoin Premium ETF’ ซึ่งจะใช้กลยุทธ์แบบ ‘คัฟเวอร์คอล’ (Covered Call) เพื่อเพิ่มผลตอบแทน เน้นจุดขายเป็นเครื่องมือสร้างรายได้แบบเสี่ยงต่ำในตลาดบิตคอยน์
แม้จะมีความผันผวนในตลาด ETF คริปโตอย่างต่อเนื่อง แต่ความเคลื่อนไหวของผู้ออกกองทุนชั้นนำ และการปฏิสัมพันธ์กับ SEC จำนวนมาก เป็นสัญญาณว่าอุตสาหกรรมกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตในระยะยาว ท่ามกลางตลาดขาลง นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในโครงสร้าง ETF อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0